ข้อปลีกย่อย
๑. ต สัพพนามอยู่ในประโยค อถ. ต้องวางไว้ใกล้ อถ
โดยไม่ต้องคำนึงถึงสัมพันธ์ และต้องแปลง ตํ เป็น นํ,
เตสํ เป็น เนสํ, ตสฺส เป็น อสฺส เสมอไป.

๒. อาห มักใช้ในที่มีคาถาเดียว เช่น อิมํ คาถมาห
อภาสิ ใช้ในที่มีหลายคาถา เช่น อิมา คาถา อภาสิ.

๓. กิริยา ปุจฺฉิ, ปุจฺฉึสุ, และ อาห
ถ้ามีตัว อวุตฺตกรรม อยู่ด้วยให้วางไว้หน้าเลขใน,
ถ้าไม่มีตัว อวุตฺตกรรม ให้วางไว้หลังเลขใน

๔. ประโยค สกฺกา ต้องมีศัพท์ประกอบด้วย ตุํ ปัจจัย
วางไว้หน้า สกฺกา บ้าง วางไว้หลัง สกฺกา บ้าง

๕.หลักการเรียงอรรถกถา คือ
ก. จำบทตั้งไว้
ข. กิริยาคุมพากย์ต้องมีกาลตรงกับในคาถา
ค. การสร้างประโยคถือหลักเหมือนประโยคธรรมดา
ฆ. อิติ ศัพท์คุมบทตั้งต้องมีเสมอไป
ง. อิติ ศัพท์ที่บทแก้และศัพท์ว่า อตฺโถ จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้
แต่ถ้ามี อตฺโถ ต้องมี อิติ ด้วย ถ้าไม่มี อิติ แล้วจะใช้ อตฺโถ ก็ได้ ไม่มีไว้ด้วยก็ได้

๖. บทแก้ในอรรถกถา ต้องประกอบด้วย วจนะ วิภัตติ เหมือนบทตั้ง
เช่น อุปฺปตฺตินฺติ อุปฺปนฺนํ

๗. การวางศัพท์ในอรรถกถา ต้องยึดหลักในคาถาเป็นหลัก
ในคาถาวางลำดับอย่างใด ในอรรถกถามักวางลำดับอย่างนั้น

๘. กิริยาในคาถาเป็นกิริยานุเคราะห์ (อัพภัตรกิริยา) หรือกิริยาคุมพากย์
ในอรรถกถาก็ต้องเป็นเช่นเดียวกัน ผู้ไม่สังเกตอาจเรียงกิริยาคุมพากย์ในคาถา
เป็นกิริยานุเคราะห์ในอรรถกถา

๙. ประโยคอุปมา
ถ้าเป็นกิริยาประกอบด้วย อนฺต มาน ปัจจัย ต้องใช้ วิย ศัพท์
ถ้าเป็นกิริยาอาขยาตหรือกิริยากิตก์ที่คุมพากย์ได้ ต้องใช้ ยถา ศัพท์

๑๐. วจนะ ของเลขนอกให้เข้ากันกับเลขใน
เช่น สตฺถา ตสฺส กถํ สุตฺวา อตุล โปราณโต ปฏฺฐาย................. หมายความว่า
เลขในพูดกับ อตุลอุบาสกคนเดียว ดังนั้น สัพพนามนอก คือ ตสฺส
จึงต้องเป็น เอกวจนะ พึงสังเกตเทียบเคียงกับแห่งอื่นบ้าง

๑๑. กิริยาอย่างเดียวกัน มีวจนะอย่างเดียวกัน
เรียงกิริยาไว้เพียงตัวเดียวในประโยคต้น
ถ้าต่างวจนะกัน ต้องเรียงไว้ทั้งประโยคต้น และประโยคหลัง

วิธีเรียง สกฺกา อถ ศัพท์ กับ ต สัพพนาม  
เรื่อง น ปฏิเสธ วิธีใช้และเรียงกิริยวิเสสนะ  
วิธีใช้ มา ศัพท์    

.................................................................................................................
จาก หนังสือคู่มือ ฝึกหัดแต่งไทยเป็นมคธ สำหรับ ป.ธ.๔-๕-๖
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์(มานิต ถาวโร ป.ธ.๙) อดีตกรรมการแผนกตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์และมหาเถรสมาคม