ภาวนา “ระโชหะระณัง"...ระลึกชาติ
...............................................................
คาถาสุภาษิตของพระจูฬปันถกเถระ

[ ๓๗๓ ] เมื่อก่อน ญาณคติเกิดแก่เราช้า เราจึงถูกดูหมิ่น
และพี่ชายจึงขับไล่เราว่า จงกลับไปเรือนเดี๋ยวนี้เถิด เราถูกพี่ชายขับไล่แล้ว
ไปยืนร้องไห้อยู่ที่ใกล้ซุ้มประตูสังฆาราม เพราะยังมีความอาลัยในศาสนา
พระผู้มีพระภาคได้เสด็จมา ณ ที่นั้น ทรงลูบศีรษะเรา ทรงจับแขนเรา
พาเข้าไปสู่สังฆาราม

พระศาสดาทรงอนุเคราะห์ ประทานผ้าเช็ดพระบาทให้แก่เรา
ตรัสว่า จงอธิษฐานผ้าสะอาดผืนนี้ให้ตั้งมั่นดีโดยมนสิการว่า

“รโชหรณํๆ....ผ้าสำหรับเช็ดธุลีๆ”
จงตั้งจิตให้มั่น นั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว เกิดความยินดีในศาสนา
ได้บำเพ็ญสมาธิให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด

เราระลึกถึงชาติก่อนๆ ได้..........
ชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว ได้บรรลุวิชชา ๓

คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำสำเร็จแล้ว
พระจูฬปันถกเถระได้เนรมิตตนขึ้นพันหนึ่ง
นั่งอยู่ที่ชีวกัมพวันอันรื่นรมย์ จนถึงเวลาเขามาบอกนิมนต์

ครั้งนั้น พระศาสดาทรงส่งทูตไปบอกเวลาภัตตาหารแก่เรา
เมื่อทูตบอกเวลาภัตตาหารแล้ว เราได้เข้าไปเฝ้าโดยอากาศ
ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระศาสดาแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

ลำดับนั้น พระศาสดาทรงรับรองเราผู้ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่
เราเป็นผู้ควรบูชาของโลกทั้งปวง
เป็นผู้ควรรับของอันเขานำมาบูชา
เป็นนาบุญแห่งหมู่มนุษย์ ได้รับทักษิณาทานแล้ว .

......................................................................................................

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย ) เล่มที่ ๒๖
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน - เปตวัตถุ เถร - เถรีคาถา
หน้าที่ ๓๐๐ -๓๐๑ หัวข้อที่ ๓๗๓