บทสวด สุริยปริตตปาฐะ

เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ
เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเมฯ เตนะ โข ปะนะ
สะมะเยนะ สุริโย เทวะปุตโต ราหุนา อะสุรินเทนะ คะหิโต โหติฯ
อะถะโข สุริโย เทวะปุตโต ภะคะวันตัง อะนุสสะระมาโน
ตายัง เวลายัง อิมัง คาถัง อะภาสิ

นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
สัมพาธะปะฏิปันโนส๎ะมิ ตัสสะ เม สะระณัง ภะวาติฯ

อะถะโข ภะคะวา สุริยัง เทวะปุตตัง อารัพภะ
ราหุง อะสุรินทัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
ตะถาคะตัง อะระหันตัง สุริโย สะระณัง คะโต
ราหุ สุริยัง ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกัมปะกา ฯ
โย อันธะกาเร ตะมะสี ปะภังกะโร
เวโรจะโน มัณฑะลิ อุคคะเตโช
มา ราหุ คิลี จะระมันตะลิกเข
ปะชัง มะมะ ราหุ ปะมุญจะ สุริยันติฯ

อะถะโข ราหุ อะสุรินโท สุริยัง เทวะปุตตัง มุญจิต๎ตะวา
ตะระมานะรูโป เยนะ เวปะจิตติ อะสุรินโท เตนุปะสังกะมิ
อุปสังกมิต๎ตะวา สังวิคโค โลมะหัฏฐะชาโต เอกะมันตัง อัฏฐาสิฯ
เอกะมันตัง ฐิตัง โข ราหุง อะสุรินทัง เวปะจิตติ อะสุรินโท คาถายะ อัชฌะภาสิ

กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ ฯ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมะหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติฯ

คำแปล สุริยปริตร

เอวัมเม สุตัง
อันข้าพเจ้า(คือพระอานนทเถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ ฯ

เอกัง สะมะยัง ภะคะวา
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า

สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนะถะปิณฑิกัสสะ อาราเม
เสด็จประทับอยู่ที่ พระเชตะวันวิหารอาราม
ของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี

เตนะ โข ปะนะ สะมะเยนะ
ก็โดยสมัยนั้นแล

สุริโย เทวะปุตโต
สุริยเทวบุตร

ราหุนา อะสุรินเทนะ คะหิโต โหติ
ถูกอสุรินทราหู จับตัวไว้ ฯ

อะถะโข สุริโย เทวะปุตโต
ครั้งนั้นแล สุริยเทวบุตร

ภะคะวันตัง อะนุสสะระมาโน
ระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า

ตายัง เวลายัง อิมัง คาถัง อะภาสิ
ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า

นะโม เต พุทธะวีรัตถุ
ข้าแต่พระพุทธเจ้าผู้แกล้วกล้า
ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระองค์

วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
พระองค์เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในกิเลสธรรมทั้งปวง

สัมพาธะปะฏิปันโนสมิ
ข้าพระองค์เผชิญฐานะอันคับขัน

ตัสสะ เม สะระณัง ภะวาติ
ขอพระองค์จงเป็นที่พึ่งแห่งข้าพระองค์ด้วยเถิด

อะถะโข ภะคะวา
ในลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า

สุริยัง เทวะปุตตัง อารัพภะ
ทรงปรารภสุริยเทวบุตร

ราหุง อะสุรินทัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
ได้ตรัสกับอสุรินทราหูด้วยพระคาถาว่า

ตะถาคะตัง อะระหันตัง สุริโย สะระณัง คะโต
สุริยเทวบุตร ถึงตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ว่าเป็นที่พึ่ง

ราหุ สุริยัง ปะมุญจัสสุ
ดูก่อนราหู ท่านจงปล่อยสุริยเทวบุตรเสียเถิด

พุทธา โลกานุกัมปะกา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นผู้อนุเคราะห์สัตว์โลก ฯ

โย อันธะกาเร ตะมะสี ปะภังกะโร
สุริยะใดเป็นผู้ส่องแสง กระทำความสว่างในที่มืดมิด

เวโรจะโน
มีความไพโรจน์โชติช่วง

มัณฑะลิ
มีสัณฐานเป็นวงกลม

อุคคะเตโช  
มีเดชสูง

มา ราหุ คิลี
ดูก่อนราหู ท่านอย่ากลืนกินสุริยะนั้น

จะระมันตะลิกเข
ผู้โคจรไปในอากาศ

ปะชัง มะมะ ราหุ ปะมุญจะ สุริยันติ
ดูก่อนราหู ท่านจงปล่อยสุริยะผู้เป็นบุตรของเราเสียเถิด ฯ

อะถะโข ราหุ อะสุรินโท
ลำดับนั้นแล อสุรินทราหู

สุริยัง เทวะปุตตัง มุญจิตวา
ปล่อยสุริยเทวบุตรแล้ว

ตะระมานะรูโป
กระหืดกระหอบ

เยนะ เวปะจิตติ อะสุรินโท เตนุปะสังกะมิ
เข้าไปหาอสุรินทเวปจิตติ ถึงที่อยู่

อุปะสังกะมิตวา
ครั้นเข้าไปหาแล้ว

สังวิคโค
ก็เศร้าสลดใจ

โลมะหัฏฐะชาโต
เกิดขนพองสยองเกล้า

เอกะมันตัง อัฏฐาสิ
ได้ยืนอยู่ ณ ที่อันสมควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

เอกะมันตัง ฐิตัง โข ราหุง อะสุรินทัง เวปะจิตติ
อะสุรินโท คาถายะ อัชฌะภาสิ อสุรินทเวปจิตติ

ได้กล่าวกะอสุรินทราหู ผู้ยืนอยู่ ณ ที่อันสมควรส่วนข้างหนึ่ง ด้วยคาถาว่า

กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
ดูก่อนราหู ทำไมหนอ ท่านจึงกระหืดกระหอบ
ปล่อยพระอาทิตย์เสียเปล่า

สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโตวะ ติฏฐะสีติ
ทำไมหนอ ท่านจึงเศร้าสลด มายืนกลัวอยู่ทำไมเล่า ฯ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภีคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ

อสุรินทราหูกล่าวว่า ข้าพเจ้าถูกขับด้วยคาถาของพระพุทธเจ้า
หากข้าพเจ้าไม่พึงปล่อยพระสุริยะ ศีรษะของข้าพเจ้าพึงแตกเป็นเจ็ดเสี่ยง
มีชีวิตอยู่ก็จะไม่ได้รับความสุขเลย

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค



 กลับสู่หน้าหลัก