คัททูลสูตร ที่ ๑
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! สงสารนี้ มีที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายรู้ไม่ได้แล้ว ที่สุดเบื้องต้น ย่อมไม่ปรากฏ
สำหรับสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่.
มหาสมุทร ยังมีสมัยเหือดแห้ง ไม่เป็นมหาสมุทร.
แต่เราไม่กล่าวว่า สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะกระทำที่สุดทุกข์ได้. |
|
|
|
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ขุนเขาสิเนรุ ยังมีสมัยที่ถูกไฟไหม้พินาศไปมีอยู่ไม่ได้.
แต่เรากล่าวไม่ได้ ถึงการกระทำที่สุดทุกข์ แห่งสัตว์ทั้งหลาย
ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบ ท่องเที่ยวไปมาอยู่.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! แผ่นดินใหญ่ยังมีสมัยที่ถูกไฟไหม้ พินาศไป มีอยู่ไม่ได้.
แต่เรากล่าวว่า สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะกระทำที่สุดทุกข์ได้.
|
|
|
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! สุนัขที่เขาผูกไว้ด้วยเชือก ถูกล่ามไว้ที่หลัก หรือเสาอันมั่นคง
ย่อมวิ่งวนเวียนหลักหรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด .
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้า
ไม่ฉลาดในอริยธรรม ไม่ได้รับแนะนำในอริยธรรม ไม่ได้เห็นสัตบุรุษ
ไม่ฉลาดในสัปปุริสธรรม ไม่ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม
|
ย่อมตามเห็นรูป โดยความเป็นตน เห็นตนมีรูป เห็นรูปในตน
หรือเห็นตนในรูป ย่อมตามเห็นเวทนา ... เห็นสัญญา ... เห็นสังขาร ...
เห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน เห็นตนมีวิญญาณ
เห็นวิญญาณในตน หรือเห็นตนในวิญญาณ
เขาย่อมแล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้นเอง
เมื่อเขาแล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอยู่
ย่อมไม่พ้นไปจากรูป ไม่พ้นไปจากเวทนา ไม่พ้นไปจากสัญญา
ไม่พ้นไปจากสังขาร ไม่พ้นไปจากวิญญาณ ไม่พ้นไปจากชาติ ชรา มรณะ
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสอุปายาส เรากล่าวว่า ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์.
|
|
|
ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ส่วนอริยสาวกผู้ได้สดับ ได้เห็นพระอริยเจ้า
ฉลาดในอริยธรรม ได้รับแนะนำดีแล้วในอริยธรรม ได้เห็นสัตบุรุษ
ฉลาดในสัปปุริสธรรม ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม
ย่อมไม่พิจารณาเห็นรูป โดยความเป็นตน ...
ไม่พิจารณาเห็นเวทนา โดยความเป็นตน ...
ไม่พิจารณาเห็นสัญญา โดยความเป็นตน ...
ไม่พิจารณาเห็นสังขาร โดยความเป็นตน ...
ไม่พิจารณาเห็นวิญญาณ โดยความเป็นตน
ไม่เห็นตนมีวิญญาณ ไม่เห็นวิญญาณในตน หรือไม่เห็นตนในวิญญาณ |
|
อริยสาวกนั้น! ย่อมไม่แล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
อริยสาวกนั้น! เมื่อไม่แล่นวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ย่อมพ้นจากรูป พ้นจากเวทนา พ้นจากสัญญา พ้นจากสังขาร พ้นจากวิญญาณ
พ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เรากล่าวว่า ย่อมพ้นไปจากทุกข์.
จบ สูตร ที่ ๑
สถานที่.กรุงสาวัตถี. ในพระเชตวันวิหาร.
ทรงแสดงแก่ ภิกษุบริษัท
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
หน้าที่ ๑๔๐ หัวข้อที่ ๒๕๕ - ๒๕๖
|