กามสูตร

[ ๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย!
โดยมากสัตว์ทั้งหลาย หมกมุ่นอยู่ในกาม
กุลบุตรผู้ละเคียว และ คานหาบหญ้าออกบวช
เป็นบรรพชิตควร เรียกว่า เป็นกุลบุตร ผู้มีศรัทธาออกบวช


ข้อนั้น เพราะเหตุไร? เพราะเขาควรได้กาม
ด้วยความเป็นหนุ่ม และ กามเหล่านั้นก็มีอยู่ ตามสภาพ

คือ เลว ปาน กลาง และประณีต
กามทั้งหมด ก็ถึงการนับได้ว่า เป็นกามทั้งนั้น

ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เปรียบเหมือนเด็กอ่อนนอนหงาย
พึงเอาชิ้นไม้ หรือชิ้นกระเบื้อง ใส่เข้าไปในปาก
เพราะความพลั้งเผลอของพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงพึงสนใจในเด็กนั้น ทันที
แล้วรีบนำเอาชิ้นไม้ หรือชิ้นกระเบื้องออกโดยเร็ว
ถ้าไม่สามารถ นำออกโดยเร็วได้
ก็พึงเอามือซ้าย จับงอนิ้วมือข้างขวา
แล้วแยงเข้าไป นำออกมาทั้งที่มี โลหิต

ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะว่าจะมีความลำบากแก่เด็ก
เราไม่กล่าวว่า ไม่มีความลำบาก

และพี่เลี้ยงผู้หวังประโยชน์ มุ่งความสุขอนุเคราะห์
พึงกระทำอย่างนั้น ด้วยความอนุเคราะห์

แต่เมื่อใด ! เด็กนั้นเจริญวัย มีปัญญาสามารถ
เมื่อนั้น พี่เลี้ยงก็วางใจในเด็กนั้นได้ว่า
บัดนี้ เด็กมีความสามารถรักษาตนเองได้แล้ว
ไม่ควรพลั้งพลาด ฉันใด








ภิกษุ ก็ฉันนั้น เหมือนกัน
ย่อมเป็นผู้ที่เราต้องรักษา เธอตลอดเวลาที่เธอยัง..
ไม่กระทำ ด้วยศรัทธาในกุศลธรรม
ไม่กระทำ ด้วยหิริในกุศลธรรม
ไม่กระทำ ด้วยโอตตัปปะในกุศลธรรม
ไม่กระทำ ด้วยวิริยะในกุศลธรรม
ไม่กระทำ ด้วยปัญญาในกุศลธรรม

แต่เมื่อใด!
ภิกษุกระทำ ด้วยศรัทธาในกุศลธรรม

กระทำ ด้วยหิริในกุศลธรรม
กระทำ ด้วยโอตตัปปะในกุศลธรรม
กระทำ ด้วยวิริยะในกุศลธรรม
กระทำ ด้วยปัญญาในกุศลธรรม

เมื่อนั้น ! เราก็ย่อมวางใจในเธอได้ว่า
บัดนี้ ภิกษุมีความสามารถ รักษาตนเองได้แล้ว ไม่ควรประมาทฯ

จบสูตร

พระไตรปิฎกฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย) เล่มที่๒๒
พระสุตตันตปิฎกเล่มที่๑๔อังคุตตรนิกายปัญจก- ฉักกนิบาต
หน้าที่๕/ ๔๐๗ หัวข้อที่๗