ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เหลียวไปมาอย่างนี้แลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เตรียมตัวจะข้ามอย่างไร?
บุคคลบางคน ในโลกนี้โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป
เพราะทำ ราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
เขาเป็นพระสกทาคามี มาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียวเท่านั้น
แล้วทำที่สุดทุกข์ได้
บุคคล ที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เตรียมตัวจะข้าม อย่างนี้แลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ได้ที่พึ่งอย่างไร?
บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ สิ้นไป
เขาเป็นพระอนาคามี จักปรินิพพาน ในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลก
นั้นเป็นธรรมดา บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ได้ที่พึ่งอย่างนี้แลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เป็นพราหมณ์ ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบก อย่างไร?
บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เขากระทำให้แจ้ง
ซึ่ง เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่บุคคล ที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เป็นพราหมณ์
ข้ามถึงฝั่ง อยู่บนบก อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลเปรียบด้วยน้ำ ๗ จำพวก นี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกฯ
จบสูตร
|