อุทกูปมสูตร

[ ๑๕ ] ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลเปรียบด้วยน้ำ ๗ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก

๗ จำพวก เป็นไฉน? บุคคลบางคนในโลกนี้
จมลงแล้วคราวเดียว ก็เป็นอันจมอยู่นั่นเอง๑
บางคน โผล่ขึ้นมาแล้ว กลับจมลงไป๑
บางคน โผล่พ้นแล้ว ทรงตัวอยู่๑
บางคน โผล่ขึ้นแล้ว เหลียวไปมา๑

บางคน โผล่ขึ้นแล้ว เตรียมตัวจะข้าม๑
บางคน โผล่ขึ้นแล้ว ได้ที่พึ่ง๑
บางคน โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เป็นพราหมณ์ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบก๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่จมลงแล้วคราวเดียว ก็เป็นอันจมอยู่นั่นเองอย่างไร?

บุคคลบางคน ในโลกนี้
เป็นผู้ประกอบด้วยอกุศลธรรมฝ่ายดำโดยส่วนเดียว

ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่จมลงแล้ว
คราวเดียวก็เป็นอันจมอยู่นั่นเอง อย่างนี้แลฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้ กลับจมลงไปอย่างไร?

บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือเขามีธรรม คือ ศรัทธา หิริโอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่ศรัทธา ของเขานั้น
ไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไป ฝ่ายเดียว
หิริโอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ของเขานั้น
ไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไป ฝ่ายเดียว
















ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว กลับจมลง อย่างนี้แล ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ทรงตัวอยู่ อย่างไร?

บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้
คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่ศรัทธาของเขานั้น
ไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่
หิริ โอตตัปปะ วิริยะ และปัญญา ของเขานั้น
ไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้ แล้วทรงตัวอยู่ อย่างนี้แลฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เหลียวไปมาอย่างไร?

บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือเขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป
เขาเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำ เป็นธรรมดา
เป็นผู้เที่ยง ที่จะตรัสรู้ ในเบื้องหน้า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เหลียวไปมาอย่างนี้แลฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เตรียมตัวจะข้ามอย่างไร?

บุคคลบางคน ในโลกนี้โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป
เพราะทำ ราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง
เขาเป็นพระสกทาคามี มาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียวเท่านั้น
แล้วทำที่สุดทุกข์ได้

บุคคล ที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เตรียมตัวจะข้าม อย่างนี้แลฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ได้ที่พึ่งอย่างไร?

บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ สิ้นไป
เขาเป็นพระอนาคามี จักปรินิพพาน ในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลก

นั้นเป็นธรรมดา บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้ว ได้ที่พึ่งอย่างนี้แลฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เป็นพราหมณ์ ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบก อย่างไร?

บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดีๆ
ในกุศลธรรมทั้งหลาย เขากระทำให้แจ้ง
ซึ่ง เจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่บุคคล ที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เป็นพราหมณ์
ข้ามถึงฝั่ง อยู่บนบก อย่างนี้แล

ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
บุคคลเปรียบด้วยน้ำ ๗ จำพวก นี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกฯ


จบสูตร

พระไตรปิฎกฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย ) เล่มที่๒๓
พระสุตตันตปิฎกเล่มที่๑๕อังคุตตรนิกายสัตตก - อัฏฐก - นวกนิบาต
หน้าที่๑๑ / ๓๗๙หัวข้อที่๑๕