วาทีสูตร
ผู้รู้ชัดตามเป็นจริง ไม่หวั่นไหวต่อผู้ยกวาทะ

[ ๑๗๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
ถึงแม้สมณะ หรือพราหมณ์ผู้มีความต้องการวาทะ
ผู้แสวงหาวาทะ พึงมาจากทิศบูรพา ... ทิศประจิม ... ทิศอุดร ...
ทิศทักษิณ ด้วยประสงค์ว่า จักยกวาทะของภิกษุนั้น
ภิกษุนั้น จักสะเทือนสะท้านหรือหวั่นไหวต่อสมณะ
หรือพราหมณ์นั้น โดยสหธรรม ข้อนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้

เปรียบเหมือนเสาหิน ๑๖ ศอก เสาหินนั้นมีรากลึกลงไป
ข้างล่าง ๘ ศอก ข้างบน ๘ ศอก ถึงแม้ลมฝนอย่างแรง
จะพัดมาแต่ทิศบูรพา ... ทิศประจิม ... ทิศอุดร ... ทิศทักษิณ
ก็ไม่สะเทือนสะท้านหวั่นไหว ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
เพราะรากลึก เพราะเสาหินเขาฝังไว้ดีแล้ว ฉันใด

ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ย่อมรู้ตามความเป็นจริงว่า
นี้ทุกข์ ฯลฯนี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
ถึงแม้สมณะ หรือ พราหมณ์ผู้ต้องการวาทะ
ผู้แสวงหาวาทะ พึงมาจากทิศบูรพา ... ทิศประจิม ... ทิศอุดร ...
ทิศทักษิณ ด้วยประสงค์ว่า จักยกวาทะของภิกษุนั้น

ภิกษุนั้นจักสะเทือนสะท้านหรือหวั่นไหวต่อสมณะหรือพราหมณ์
นั้นโดยสหธรรม ข้อนั้นมิใช่ ฐานะที่จะมีได้

ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเห็นอริยสัจ ๔ ดีแล้ว
ฉันนั้นเหมือนกัน อริยสัจ ๔เป็นไฉน?
คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เพราะฉะนั้นแหละ
เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ
นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.

จบ สูตร

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๙
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
หน้าที่ ๔๓๙ หัวข้อที่ ๑๗๒๔