ชาคริยสูตร

[ ๒๒๕ ] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ก็ภิกษุพึงเป็นผู้มีความเพียรเป็นเครื่องตื่น
มีสติสัมปชัญญะมีจิตตั้งมั่น เบิกบาน ผ่องใส
และพึงเป็นผู้เห็นแจ้งในกุศลธรรมทั้งหลาย
สมควรแก่กาลในการประกอบกรรมฐานนั้นเนืองๆ เถิด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เมื่อภิกษุมีความเพียรเป็นเครื่องตื่น
มีสติสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น เบิกบานผ่องใส
เห็นแจ้งในกุศลธรรมทั้งหลาย
สมควรแก่กาลในการประกอบกรรมฐานนั้นเนืองๆ

พึงหวังผล ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
อรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่
ความเป็นพระอนาคามี ฯ

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น
พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

เธอทั้งหลาย ตื่นอยู่ จงฟังคำนี้
เธอเหล่าใดผู้หลับแล้ว เธอเหล่านั้นจงตื่น
ความเป็นผู้ตื่นจากความหลับเป็นคุณประเสริฐ
เพราะภัยย่อมไม่มีแก่ผู้ตื่นอยู่

ผู้ใดตื่นอยู่มีสติสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น เบิกบาน
และผ่องใสพิจารณาธรรมอยู่โดยชอบโดยกาลอันควร
ผู้นั้นมีสมาธิเป็นธรรมเอกผุดขึ้นแล้ว พึงกำจัดความมืดเสียได้

เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุพึงคบธรรมเครื่องเป็นผู้ตื่น
ภิกษุผู้มีความเพียร มีปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน
มีปรกติได้ฌานตัดกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ด้วยชาติและชราได้แล้ว
พึงถูกต้องญาณอันเป็นเครื่องตรัสรู้อย่างยอดเยี่ยมในอัตภาพนี้แล ฯ

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ

จบสูตรที่ ๑๐

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย ) เล่มที่ ๒๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ - ธรรมบท - อุทาน - อิติวุตตกะ - สุตตนิบาต
หน้าที่ ๑๙๔-๑๙๕ หัวข้อที่ ๒๒๔ - ๒๒๕

กสิภารทวาชสูตร สัมปทานสูตร บุคคลเหมือนวลาหก ๔