ตอนที่ ๑๓
ชีวประวัติ พระสุนทรธรรมากร

(หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม

ผจญภัย วันเดียว ๓ ครั้ง

หมีใหญ่

ท่านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ตอนอยู่ที่วัดบ้านภูโคก จังหวัดเลย
ท่านได้รู้ข่าวจากชาวบ้านว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่ง
ที่อยู่บ้านน้ำมี ตายแล้วฟื้น จึงได้ลาน้าเขย กลับไปบ้านน้ำมี
น้าเขยได้เตือนหลวงปู่ฯว่า ให้ระวังในตรงทางที่จะไปนั้น
ถ้าผ่านภูแขกลงไป จะมีขอนไม้ยางใหญ่นอนขวางทาง
ถ้าถึงตรงนั้นให้หยุดดูก่อน อย่าเพิ่งไปให้ส่องลอดใต้พื้นดูก่อน
ถ้าไม่อะไรค่อยเดินต่อไป เพราะจะมีเสือแอบซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น
และหมีใหญ่ก็จะมาแอบซ่อนอยู่ตรงนั้น

ในขณะที่เดินทางตามเส้นทางป่าอยู่คนเดียวมาถึงตรงนั้น
นึกถึงคำพูดของน้าเขยแล้ว ก็ค่อยๆส่องดูใต้ขอนไม้ยางใหญ่
เมื่อไม่เห็นมีอะไร จึงเดินต่อไป ได้ประมาณ ๑ เส้น(๔๐ เมตร)
ก็ได้เจอหมีใหญ่ ซึ่งกำลังขึ้นใต้ไม้สูงประมาณ ๒ เมตร
จากพื้นดินขึ้นไป ท่านเล่าว่า ตรงนั้นมีโพรงไม้ หมีก็อยู่ตรงนั้น
มันกำลังกัดกิ่งไม้ กิ่งหนึ่งก็ตรงลงมาถูกเท้าของท่านพอดี
ท่านมองดูกิ่งไม้ แล้วแหงนมองดู จากที่กิ่งไม้หล่นลงมา
ก็เห็นหมีตัวใหญ่ห่างจากท่านประมาณ๔เมตร

ท่านยืนจ้องมองดูหมี หมีได้จ้องมองดูท่าน
หลวงปู่ระลึกคำพูดของคนโบราณที่พูดต่อกันมาว่า
ถ้าเจอหมีแล้วไม่ให้ดูหน้ามัน หมีมันเกลียดตาของมนุษย์
เพราะตาของมนุษย์นี้มันแข็งมันจะดุและทำร้ายคน

หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ

เมื่อนึกถึงคำพูดคำนี้แล้ว ท่านก็ชำเลียงสายตา
เห็นสายตาของหมีมันอ่อนลง ท่านก็กำหนดแผ่เมตตาว่า

“การที่เราเดินทางมานี้ โดยไม่มีเจตนาจะประทุษร้ายเบียดเบียนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
และสัตว์ตัวใดตัวหนึ่ง เราได้เจริญเมตตามาตลอด เราบวชมาแสวงโมกขธรรม
ไม่ได้แสวงหาอย่างอื่น ขอให้อยู่เป็นสุขๆเถิด อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”


เมื่อท่านรู้ว่านัยน์ตาของหมีก็อ่อนลงแล้ว ท่านก็ได้เดินผ่านไป


หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ

ควายป่า
พอเดินทางผ่านไปได้ประมาณ ๒ กิโลเมตร
ตรงนั้นเป็นทางโค้งหักมุม ก็ไปเจอกับควายป่าตัวใหญ่
เขา ๒ ข้างใหญ่ เมื่อควายป่านั้นเจอหลวงปู่ มันก็ก้มหน้าลง
พร้อมที่จะวิ่งเข้ามาขวิด เขาสองข้างก็ตงมาที่ท่าน
ท่านกับควายป่า ห่างจากกันประมาณ ๒ เมตร

ทางที่จะหลบหนีไปก็ไม่มี ข้างขวามีป่ารกด้วยหนาม
ข้างซ้ายก็เหมือนกัน เป็นเส้นทางที่แคบ พอที่จะเดินได้เท่านั้น
ควายป่านั้นก็เหมือนกัน มันก็ไปไหนไม่ได้ติดป่าไม้เช่นกัน

ท่านก็คิดว่า เราจะทำอย่างไรดี ไปซ้ายก็ไม่ได้ ไปข้างขวาก็ไม่ได้
ได้แต่ยืนพิจารณาอยู่ว่า ทำอย่างไรดีควายป่ามันจะหลีกทางให้ไม่ทำร้ายเรา
ท่านคิดว่า ถ้ามันวิ่งมาเพื่อจะขวิดก็จะหลบออกข้างๆ ไม่มีวิธีอื่นแล้ว อไป

ระหว่างนั้นหยุดนิ่งอยู่ประมาณ ๑๐ นาที
จิตของท่านก็เกิดอกุศลขึ้น คืออยากที่จะแกล้งให้มันตกใจหนีไป

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ท่านก็หยิบร่มกลดธุดงค์ที่ถือมา ค่อยๆจับด้ามของกลด
ซักกลัดขึ้น เสียงดังพรึบ ควายป่าได้เห็นและได้ยินเสียงก็ตกใจกลัว
หัวมันซุกเข้าไปในป่า ก้นควายก็ยังไม่พ้นเส้นทาง เพราะเป็นป่าหนาม
ท่านหลบออกข้างหลังของควายป่านั้นด้วยความปลอดภัย

ฝูงลิง
เมื่อเดินทางมาถึงชายทุ่งแห่งหนึ่ง ที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า หนองหมาใน
ท่านได้สังเกตเห็น สีแดงเต็มทุ่งนาไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่
พอดูนานๆ ก็มองเห็นลิงตัวหนึ่งเป็นเต้นขึ้น เต้นลง ก็รู้เลยว่า
ทั้งหมดสีแดงๆ นั้น เป็นฝูงลิง ท่านคิดว่า ทำไมถึงมากมายขนาดนี้

ลิงตัวหนึ่งมันมองเห็นหลวงปู่ ก็วิ่งมาหาท่าน เมื่อตัวหนึ่งวิ่งมาลิงตัวอื่นๆเห็น
ก็วิ่งมา ท่านก็รู้สึกกลัวลิงจะมาทำร้ายเหมือนกัน ท่านนึกในใจว่า
ถ้ามันมาทำร้ายเรา ก็คงไม่เหลือสักชิ้นเลย เพราะมันฝูงใหญ่จำนวนมาก
ท่านก็ยืนไม่ทำอะไร ได้แต่มองดูลิง ลิงมันก็ทำหน้าตาหลอก บางตัววิ่งวนรอบตัวท่าน

ท่านก็ยืนสงบนิ่งเฉยอยู่ กำหนดแผ่เมตตา
“การที่เราเดินทางมานี้ โดยไม่มีเจตนาจะประทุษร้ายเบียดเบียนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
และสัตว์ตัวใดตัวหนึ่ง เราได้เจริญเมตตามาตลอด เราบวชมาแสวงโมกขธรรม
ไม่ได้แสวงหาอย่างอื่น ขอให้อยู่เป็นสุขๆเถิด อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”


มีตัวหนึ่งร้องขึ้น เหมือนกับส่งสัญญาณ ว่าให้ไปที่อื่น
ตัวที่เหลือเริ่มเดินทางไปตามๆกัน ท่านก็เดินทางต่อไป

จนไปถึงบ้านน้ำมี ที่พระตายแล้วพื้น

 

(.......อ่านต่อ)

ตอนที่ ๑๒ .....๑๓.... ตอนที่ ๑๔

รวบรวมโดย พระครูภาวนาสุตาภรณ์ เจ้าอาวาส วัดป่ามหาชัย