ประเพณี บุญข้าวประดับดิน 2561
ภาคเช้า ชาวพุทธศาสนิกชนทั่วไป สมาทานศีล ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์
ภาคเย็น สมาทานศีล ๘ สวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา เวียนเทีย





เรื่องเล่า "บุญข้าวประดับดิน" ชาวอีสาน

มีสตรีนางหนึ่ง เป็นคนร่ำรวย แต่มีนิสัยตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เคยทำบุญเลยในชาตินี้ แกได้สมบัติอะไรมาก็เก็บไว้ไม่ทำบุญ ไม่สงเคราะห์ใครๆ ทั้งนั้น และนอกจากจะไม่ทำบุญแล้ว ถ้าแกเห็นลูกๆ เอาเงินไปทำบุญ ก็จะดุด่าห้ามปรามไม่ให้ทำบุญ โดยบอกว่าทำบุญก็เสียเปล่า เอาไว้ซื้อข้าวกินเองไม่ดีกว่าหรืออะไรทำนองนี้

อยู่ต่อมาไม่นาน นางก็เป็นโรคเจ็บป่วยลง ด้วยความที่เป็นตระหนี่ นางก็ไม่ไปหาหมอ เพราะกลัวจะเสียเงิน ในที่สุดนางก็ตาย ด้วยความทรมาน ทรัพย์ที่นางหามา ได้ ในบ้านมากมาย ตั้งหลายล้านก็ตกเป็นของลูกต่อไป โดยที่นางไม่ใช้ประโยชน์จากทรัพย์นั้นเลย สู้อุตส่าห์ทำงานหนักหามา และเก็บรักษาไว้เลย

ครั้นนางตายไปแล้ว ด้วยความที่ไม่เคยทำบุญอะไรไว้เลย และนอกจากจะไม่ได้ทำบุญไว้แล้ว แถมยังสร้างอกุศลกรรมไว้ในใจอีกด้วย โดยการคิดตำหนิคนทำบุญว่า ทำบุญให้สูญเสียเงินทองเปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ด้วยจิตอกุศลนี้เอง ทำให้นางไปเกิดในนรกอเวจี เกิดในหม้อกระทะทองแดง เกิดและตายในหม้อกระทะทองแดงนั้นอยู่เป็นเวลานาน

ครั้งเมื่อถึงเมื่อช่วงเทศกาลบุญข้าวประดับดิน นายยมบาลได้ทำการพักโทษสัตว์นรกทั้งหลาย ให้กลับบ้านมาขอส่วนบุญจากญาติพี่น้องที่ยังไม่ตาย เผื่อใครมีญาติที่ใจบุญกุศล ทำบุญอุทิศไปให้ ก็จะได้บุญนั้นทำให้หมดเวรหมดกรรมในนรก ไปเกิดยังสถานที่อื่นต่อไป ส่วนใครที่ยังไม่หมดเวรกรรม ก็จะได้รับอาหารจากญาติพี่น้อง พอประทังความหิวโหยไปได้บ้าง สักปีละครั้ง  

สัตว์นรกทั้งหลาย เมื่อได้รับพักโทษในนรกสักชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็รีบกลับบ้านของตนเอง ต่างแยกย้ายกันไปบ้านใครบ้านมัน เพื่อไปขอส่วนจากญาติพี่น้อง เมื่อไปที่ไหนก็มีสุนัขเห่าหอนไปตามๆ กัน

สตรีนางที่ว่านี้ก็เหมือนกัน เมื่อได้พักโทษแล้ว นางก็รีบกลับบ้านมายืนรอส่วนบุญจากลูกๆ อยู่ที่ข้างๆ ยุ้งข้าวบ้าง ใต้ถุนบ้านบ้าง หน้าบ้านบ้าง ก็ไม่เห็นมีอาหารที่พวกลูกหลานมาหาไว้ให้เลย ได้ยินแต่เสียงลูกหลานกินข้าวกัน แต่เสียงที่จะเรียกแม่ให้กินด้วยก็ไม่มี เมื่อไม่เห็นอาหารในบ้าน นางก็นึกว่า พวกลูกๆ คงจะนำไปไว้ที่สวน หรือที่นา แกก็วิ่งไปหาดูทุกที่ ซึ่งก็ว่างเปล่า และแล้วนางก็วิ่งกลับมาบ้านอีกหวังว่าพวกลูกๆ คงนึกถึงตนแล้ว นำอาหารมาให้แล้ว และเรียกแม่มากินก็ไม่อีกเช่นเคย หรือทำบุญที่วัดก็ไม่ทำ ช่างได้นิสัยแม่มาเหลือเกิน

ขณะที่ยืนรอคอยอาหารจากลูกๆ อยู่นั้น นางก็มองเห็นสัตว์นรกอื่นๆ ที่ลูกหลานเขาไปทำบุญข้าวประดับดิน เขาก็ได้กินอาหารอิ่มหนำสำราญ แต่ตนเองนั้นหิวโหยอดอยาก ไม่ต่างอะไรกันกับที่อยู่ในนรก เสียแรงที่เบียดเสียดแย่งคนอื่นออกจากนรกมา หวังว่าจะได้อาหารจากลูกหลานก็ไม่ได้ ลูกหลานก็มีความตระหนี่เหมือนแกไม่มีผิด ทำให้นางร้องห่มร้องไห้อย่างน่าเวทนา พร้อมทั้งบ่นกับตนเองว่า ถ้ารู้อย่างนี้เงินทองที่สู้อุตส่าห์ทำงานแลกมาเก็บรักษาไว้ตั้งมากมายนั้น จะเอามาทำบุญให้หมด ทั้งที่ไร่ที่นาก็จะขายมาทำบุญให้หมด ชาติหน้าจะได้ไม่อดอยาก จะได้มีอาหารทิพย์กินเหมือนคนอื่น ไม่ต้องตกนรกและหิวโหยอดอยากอยู่เช่นนี้

ในที่สุด นางก็ต้องกลับนรกเสวยกรรมของตัวเอง พร้องทั้งทนหิวโหยต่อไปอีกปี และปีหน้าก็ยังจะมาอีก เผื่อว่าลูกหลานจะทำบุญอุทิศให้บ้าง ปีนี้ต้องอดทนอดอยากทนหิวต่อไปฯ