พิธีคารวะสามีจิกรรม
วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เดือน 8 อาสาฬหบูชา
พิธีขอขมาสรีระสังขารพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ)
นำโดยพระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ พระครูศรีธรรมากร พระครูภาวนาสุตาภรณ์
พระครูอรุณสุตาภรณ์ พร้อมคณะศิษยานุศิษย์พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 50 รูป
พร้อมเพียงกันกราบคารวะสังขารหลวงปู่ อนุโมทนาบุญด้วยกันสาธุ



พระครูสุนทรชยาภิวัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอปลาปาก เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย


พระครูภาวนาสุตาภรณ์ (พระมหาประเทือง พุทธรักขิโต)
เจ้าอาวาสวัดป่ามหาชัย


พระครูศรีธรรมากร (พระมหาอุทัย รตนญาโณ)
เจ้าคณะตำบลมหาชัย เจ้าอาวาสวัดห้วยไหล่


พระครูอรุณสุตาภรณ์ (พระมหาบุญเกิด วชิรญาโณ)
เจ้าอาวาสวัดจอมแจ้ง เจ้าคณะตำบลโคกสว่าง


คุณอุมิยา พงษานุกุลเวช

พิธีทำสามีจิกรรม

การทำสามีจิกรรม เป็นธรรมเนียมของสงฆ์อย่างหนึ่ง ที่ภิกษุสามเณรพึงทำความชอบต่อกันเพื่อความสามัคคี
อยู่ร่วมกันด้วยความสงบนสุข หมายถึงการขอขมาโทษกัน ให้อภัยกัน โอกาสที่ควรทำสามีจิกรรมโดยนิยมมีดังนี้

๑) ในวันเข้าพรรษา ทำกับภิกษุสามเณรในวัดเดียวกัน
๒) ในระยะเข้าพรรษา หลังเข้าพรรษาระยะประมาณเจ็ดวัน ทำกับท่านที่เคารพนับถือ ซึ่งอยู่ต่างวัดกัน
๓) ในโอกาสที่จะจากกันไปอยู่วัดอื่น หรือถิ่นอื่น นิยมทำต่อผู้มีอาวุโสกว่า เป็นการลาจากกัน
สามีจิกรรมแบบขอขมาลาโทษ   ทำนอกพระอุโบสถ หรือนอกวัด
๑) จัดเครื่องสักการะ คือ ดอกไม้ ธูปเทียน ครองผ้าให้เรียบร้อย ถ้าเป็นพระภิกษุให้พาดสังฆาฏิด้วย
๒) ถือพานดอกไม้ ธูปเทียน ประคองสองมือเข้าไปหาท่านที่จะขอขมา คุกเข่าลงตรงหน้า ระยะห่างกันศอกเศษ วางพานทางซ้ายมือของตน กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์สามครั้ง แล้วยกพานขึ้นประคองสองมือแค่อก กล่าวคำขอขมา
๓) เมื่อท่านที่ตนขอขมากล่าวคำให้อภัยโทษแล้ว พึงรับคำตามแบบนิยม ถ้าท่านที่ตนขอขมาให้พรต่อท้าย พึงรับคำว่า สาธุ ภนฺเต แล้วน้อมพานเข้าไปประเคน และกราบอีกสามครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

สามีจิกรรม แบบถวายสักการะ   เตรียมเครื่องสักการะอย่างเดียวแบบขอขมา
ในการทำแบบนี้ผู้ที่ตนทำไม่จำเป็นต้องแก่อาวุโสกว่าตน ถ้าตนอาวุโสอ่อนกว่าพึงกราบสามครั้ง
ถ้าอาวุโสแก่กว่าไม่ต้องกราบ เพียงแต่รับไหว้โดยนั่งพับเพียบประนมมือในเมื่อผู้อ่อนอาวุโสกว่ากราบ เป็นอันเสร็จพิธี    

ที่มา   http://www.buddhadham.com/index.php?mo=3&art=243528
http://www.jariyatam.com/th/buddhist-ceremony/merit-ceremony/88-2009-06-24-14-22-00