บทสวดพระปาฏิโมกข์

การสวดปาฏิโมกข์ย่อ

ปาฏิโมกข์ย่อ
  มีพุทธานุญาตให้สวดปาฏิโมกข์ย่อได้ ในเมื่อมีเหตุจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ในเหตุ ๒ อย่าง คือ
        ๑. ไม่มีภิกษุจำปาฏิโมกข์ได้จนจบ (พึงสวดเท่าอุเทศที่จำได้)
        ๒. เกิดเหตุฉุกเฉินขัดข้องที่เรียกว่าอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งใน อันตรายทั้ง ๑๐
           ( กำลังสวดอุเทศใดค้างอยู่ เลิกอุเทศนั้นกลางคันได้ และพึงย่อตั้งแต่อุเทศนั้นไปด้วยสุตบท คือ คำว่า สุต ที่ประกอบรูปเป็น สุตา ตามไวยากรณ์ ทั้งนี้ยกเว้นนิทานุทเทสซึ่งต้องสวดให้จบ)

        สมมติว่าสวดปาราชิกุทเทสจบแล้ว ถ้าสวดย่อตามแบบที่ท่านวางไว้ จะได้ดังนี้:
        สุตา โข อายสฺมนฺเตหิ เตรส สงฺฆาทิเสสา ธมฺมา , สุตา โข อายสฺมนฺเตหิ เทฺว อนิยตา ธมฺมา , ฯเปฯ
        ลงท้ายว่า  เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต ฯเปฯ สิกฺขิตพฺพํ
 
       แบบที่วางไว้เดิมนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ไม่ทรงเห็นด้วยในบางประการ และทรงมีพระมติว่า
ควรสวดย่อดังนี้
 
     ( สวดปาราชิกุทเทสจบแล้ว สวดคำท้ายทีเดียว):
        “ อุทฺทิฏฺฐํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ , อุทฺทิฏฺฐา จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา , สุตา เตรส สงฺฆาทิเสสา ธมฺมา ,
ฯเปฯ สุตา สตฺตาธิกรณสมถา ธมฺมา , เอตฺตกํ ฯเปฯ สิกฺขิตพฺพํ ”;


๓ รูป ท่านให้ทำปาริสุทธิอุโบสถ คือประชุมกันในโรงอุโบสถแล้ว รูปหนึ่งตั้งญัตติว่าดังนี้

" สุณนฺตุ เม ภนฺเต อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปณฺณรโส
ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อยฺมํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยาม."

แปล : " ท่านทั้งหลายเจ้าข้า อุโบสถวันนี้ที่ ๑๕ ถ้าความพร้อม
พรั่งของท่านถึงที่แล้ว เราทั้งหลายพึงทำปาริสุทธิอุโบสถด้วยกัน."

[ ถ้ารูปที่ตั้งญัตติแก่กว่าเพื่อน ว่า " อาวุโส" แทน " ภนฺเต"
ถ้าเป็นวัน ๑๔ ค่ำ ว่า " จาตุทฺทโส" แทน " ปณฺณรโส"].



สารบัญ บทสวดพระปาฏิโมกข์
บทสวด บุพพกรณ์และบุพพกิจ บทสวด นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐
บทสวดนำ พระภิกขุปาฏิโมกข์ บทสวด ปาจิตตีย์ ๙๒
บทสวด ปาราชิก ๔ บทสวด ปาฏิเทสนีย์ ๔
บทสวด สังฆาทิเสส ๑๓ บทสวด เสขิยวัตร ๗๕
บทสวด อนิยต ๒ บทสวด อธิกรณสมถะ ๗