มหาสติปัฏฐานสูตร ฉบับ บาลีอักษรไทย(แปล)

โพชฌงคบรรพ

(นำ) หันทะ มะยัง โพชฌังคะปัพพะปาฐัง ภะณามะ เส ฯ

(รับ) ปุนะ จะปะรัง ภิกขะเว ภิกขุ
- ภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง

ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- ภิกษุพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่

สัตตะสุ โพชฌังเคสุ
- คือ โพชฌงค์ ๗

กะถัญจะ ภิกขะเว ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่

สัตตะสุ โพชฌังเคสุ
- คือ โพชฌงค์ ๗ เป็นอย่างไรเล่า?

 อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ
- ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้

สันตัง วา อัชฌัตตัง สะติสัมโพชฌังคัง
- เมื่อสติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง สะติสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า สติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง สะติสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง สติสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง สะติสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า สติสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ สะติสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

 ยะถา จะ อุปปันนัสสะ สะติสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- สติสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

  สันตัง วา อัชฌัตตัง ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังคัง
- เมื่อธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ ธัมมะวิจะยะสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

  สันตัง วา อัชฌัตตัง วิริยะสัมโพชฌังคัง
- เมื่อวิริยสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง วิริยะสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า วิริยสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง วิริยะสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง วิริยสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง วิริยะสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า วิริยสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ วิริยะสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

 ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ วิริยะสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- วิริยสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

  สันตัง วา อัชฌัตตัง ปีติสัมโพชฌังคัง
- เมื่อปีติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง ปีติสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ปีติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง ปีติสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง ปีติสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง ปีติสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ปีติสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ ปีติสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

 ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ ปีติสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- ปีติสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

สันตัง วา อัชฌัตตัง ปัสสัทธิสัมโพชฌังคัง
- เมื่อปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง ปัสสัทธิสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง ปัสสัทธิสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง ปัสสัทธิสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ ปัสสัทธิสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

 ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ ปัสสัทธิสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

  สันตัง วา อัชฌัตตัง สะมาธิสัมโพชฌังคัง
- เมื่อสมาธิสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง สะมาธิสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า สมาธิสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง สะมาธิสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง สมาธิสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง สะมาธิสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า สมาธิสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

 ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ สะมาธิสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- สมาธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ สะมาธิสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- สมาธิสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

  สันตัง วา อัชฌัตตัง อุเปกขาสัมโพชฌังคัง
- เมื่ออุเบกขาสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิต

อัตถิ เม อัชฌัตตัง อุเปกขาสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า อุเบกขาสัมโพชฌงค์ มีอยู่ภายในจิตของเรา

อะสันตัง วา อัชฌัตตัง อุเปกขาสัมโพชฌังคัง
- อนึ่ง อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิต

นัตถิ เม อัชฌัตตัง อุเปกขาสัมโพชฌังโคติ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดว่า อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ไม่มีอยู่ภายในจิตของเรา

ยะถา จะ อะนุปปันนัสสะ อุเปกขาสัมโพชฌังคัสสะ อุปปาโท โหติ
- อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด จะเกิดขึ้นด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

ยะถา จะ อุปปันนัสสะ อุเปกขาสัมโพชฌังคัสสะ ภาวะนาปาริปูริ โหติ
- อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะเจริญบริบูรณ์ ด้วยประการใด

ตัญจะ ปะชานาติ
- ย่อมรู้ชัดประการนั้นด้วย

อิติ อัชฌัตตัง วา ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุพิจารณาเห็นธรรมในธรรม ภายในบ้าง

พะหิทธา วา ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- พิจารณาเห็นธรรมในธรรม ภายนอกบ้าง

อัชฌัตตะพะหิทธา วา ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- พิจารณาเห็นธรรมในธรรม ทั้งภายในและภายนอกบ้าง

 สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา ธัมเมสุ วิหะระติ
- พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้น ในธรรมบ้าง

วะยะธัมมานุปัสสี วา ธัมเมสุ วิหะระติ
- พิจารณาเห็นธรรม คือความเสื่อมไป ในธรรมบ้าง

สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา ธัมเมสุ วิหะระติ
- พิจารณาเห็นธรรม ทั้งความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในธรรมบ้าง

อัตถิ ธัมมันติ วา ปะนัสสะ สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ
- อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า ธรรมมีอยู่

ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ
- เพียงสักว่ารู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น

อะนิสสิโต จะ วิหะระติ
- เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้

นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ
- ไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก

เอวัมปิ โข ภิกขะเว ภิกขุ ธัมเมสุ ธัมมานุปัสสี วิหะระติ
- ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นธรรมในธรรม

สัตตะสุ โพชฌังเคสุ
- คือ โพชฌงค์ ๗ อยู่ ฯ


สารบัญ บทสวดมหาสติปัฏฐานสูตร
คำนำ  
ประโยชน์ของการสาธยายธรรม ธัมมานุปัสสนา นิวรณบรรพ
บทนำ มหาสติปัฏฐานสูตร ธัมมานุปัสสนา ขันธบรรพ
กายานุปัสสนา อานาปานบรรพ ธัมมานุปัสสนา อายตนบรรพ
กายานุปัสสนา อิริยาบถบรรพ ธัมมานุปัสสนา โพชฌงคบรรพ
กายานุปัสสนา สัมปชัญญบรรพ ธัมมานุปัสสนา สัจจบรรพ
กายานุปัสสนา ปฏิกูลมนสิการบรรพ ธัมมานุปัสสนา ทุกขสมุทัยอริยสัจ
กายานุปัสสนา ธาตุมนสิการบรรพ ธัมมานุปัสสนา ทุกขนิโรธอริยสัจ
กายานุปัสสนา นวสีวถิกาบรรพ ธัมมานุปัสสนา ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
เวทนานุปัสสนา อานิสงส์ของการเจริญสติปัฏฐาน ๔
จิตตานุปัสสนา บทสวด ปฏิจจสมุปบาท

 

 กลับสู่หน้าหลัก