|    บทสวด ภัทเทกรัตตคาถา ( หันทะ มะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะ เส ฯ)
 
 อะตีตัง นาน๎วาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
 - บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว,   ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
 
 ยะทะตีตัมปะหีนันตัง อัปปัตตัญจะ อะนาคะตัง
 - สิ่งใดล่วงไปแล้ว, สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว,
 และสิ่งที่ยังไม่มาถึง, ก็เป็นอันยังไม่ถึง
 
 ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ,
 อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ตัง วิทธา มะนุพ๎รูหะเย
 - ก็บุคคลใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบัน, ไม่ง่อนแง่นไม่คลอนแคลน
 ในธรรมนั้นๆ ได้, บุคคลนั้นพึงเจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด,
  อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว- พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ, ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง
  นะ หิ โน สังคะรันเตนะ มะหาเสเนนะ มัจจุนา- เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น,
 ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย
   เอวัง วิหาริมาตาปิง อะโหรัตตะมะตันทิตัง , ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ สันโต อาจิกขะเต มุนีติ
 - พระมุนีผู้สงบ, ย่อมเรียกบุคคลผู้มีปรกติอยู่อย่างนี้,
 มีความเพียรไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นแลว่า,
 ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ,  ด้วยประการฉะนี้แลฯ
 
 (อุปริ. ม. ๑๔/๒๖๕/๕๒๖)
 
 ที่มา ภัทเทกรัตตคาถา หรือ ภัทเทกรัตตสูตร
 พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ ( ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔
 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
 หน้าที่ ๒๖๕- ๒๖๗ หัวข้อที่ ๕๒๖ - ๕๓๔
 |