คำขอนิสัย คำขอนิสัย (นาคเดี่ยว) อุปสัมปทาเปกข์พึงนั่งคุกเข่าประณมมือกล่าวคำขอนิสัย ดังนี้ อะหัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามิ// ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามิ// ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามิ//ฯ อุปัชฌาโย เม ภันเต โหหิ// อุปัชฌาโย เม ภันเต โหหิ// อุปัชฌาโย เม ภันเต โหหิ//ฯ คำขอนิสัย (นาคคู่) อุปสัมปทาเปกข์พึงนั่งคุกเข่าประณมมือกล่าวคำขอนิสัย ดังนี้ มะยัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามะ// ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามะ// ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต/ นิสสะยัง ยาจามะ//ฯ อุปัชฌาโย โน ภันเต โหหิ// อุปัชฌาโย โน ภันเต โหหิ// อุปัชฌาโย โน ภันเต โหหิ//ฯ
การให้นิสัย เมื่ออุปสัมปทาเปกข์กล่าวคำขอนิสัยและคำขอให้เป็นพระอุปัชฌาย์จบแล้ว พระอุปัชฌาย์ จะกล่าวตอบรับการให้นิสัยและการรับเป็นพระอุปัชฌาย์ ดังนี้ พระอุปัชฌาย์กล่าวว่า “ปะฏิรูปัง” (สมควร) อุปสัมปทาเปกข์พึงกล่าวรับว่า “สาธุ ภันเต” (ดีละ เจ้าข้า) พระอุปัชฌาย์กล่าวว่า “โอปายิกัง” (ชอบด้วยอุบาย) อุปสัมปทาเปกข์พึงกล่าวรับว่า “สาธุ ภันเต” (ดีละ เจ้าข้า) พระอุปัชฌาย์กล่าวว่า “ปาสาทิเกนะ สัมปาเทหิ” (เธอจงยังความปฏิบัติให้ถึงพร้อมด้วยอาการที่น่าเลื่อมใสเถิด) อุปสัมปทาเปกข์พึงกล่าวรับว่า “สาธุ ภันเต” (ดีละ เจ้าข้า) อุปสัมปทาเปกข์กล่าวคำรับ (เดี่ยว) ต่อแต่นั้น อุปสัมปทาเปกข์จะกล่าวคำรับเป็นภารธุระของกันและกันสืบต่อไป ดังนี้ อัชชะตัคเคทานิ เถโร มัยหัง ภาโร// อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร// อัชชะตัคเคทานิ เถโร มัยหัง ภาโร// อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร// อัชชะตัคเคทานิ เถโร มัยหัง ภาโร// อะหัมปิ เถรัสสะ ภาโร// อุปสัมปทาเปกข์กล่าวคำรับ (คู่) ต่อแต่นั้น อุปสัมปทาเปกข์จะกล่าวคำรับเป็นภารธุระของกันและกันสืบต่อไป ดังนี้ อัชชะตัคเคทานิ เถโร อัมหากัง ภาโร// มะยัมปิ เถรัสสะ ภารา// อัชชะตัคเคทานิ เถโร อัมหากัง ภาโร// มะยัมปิ เถรัสสะ ภารา// อัชชะตัคเคทานิ เถโร อัมหากัง ภาโร// มะยัมปิ เถรัสสะ ภารา//