๑๑ . ธัมมวรรค คือ หมวดธรรม
๑๖๒ . ธมฺโม รหโท อกทฺทโม.
ธรรมเหมือนห้วงน้ำไม่มีตม .
ขุ . ชา. ฉกฺก. ๒๗/ ๒๐๒.
๑๖๓ . มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา.
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๑๕.
๑๖๔ . ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช.
ธรรมแล เป็นธงชัยของพวกฤษี.
สํ . นิ. ๑๖/ ๒๖. องฺ. จตุกฺก. ๒๑/ ๖๖. ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/ ๑๕๒.
๑๖๕. สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย.
ธรรมของสัตบุรุษ รู้ได้ยาก.
สํ . ส. ๑๕/ ๒๖. ขุ. ชา. ทุก. ๒๗๑๖๓. ขุ. ชา. ทสก. ๒๗๑๒๙๔.
๑๖๖ . สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ.
ธรรมของสัตบุรุษ ไม่เข้าถึงความคร่ำคร่า.
สํ . ส. ๑๕/ ๑๐๒. ขุ. ธ. ๒๕/ ๓๕. ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/ ๑๓๖.
๑๖๗ . สทฺธมฺโม สพฺภิ รกฺขิโต.
ธรรมของสัตบุรุษ อันสัตบุรุษรักษา.
ที . มหา. ๑๐/ ๒๗๙.
๑๖๘ . ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ.
ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว นำสุขมาให้.
สํ . ส. ๑๕/ ๕๘. ขุ. สุ. ๒๕/ ๓๖๐. ขุ. ชา. ทสก. ๒จ/ ๒๙๐. ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๑๔.
๑๖๙ . สพฺเพสํ สหิโต โหติ สทฺธมฺเม สุปติฏฺฐิโต
ผู้ตั้งมั่นในสัทธรรม เป็นผู้เกื้อกูลแก่คนทั้งปวง.
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๒๔๙.
๑๗๐ . ธมฺมปีติ สุขํ เสติ.
ผู้มีปีติในธรรม อยู่เป็นสุข.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๒๕.
๑๗๑ . ธมฺมจารี สุขํ เสติ.
ผู้ประพฤติธรรม อยู่เป็นสุข.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๗, ๓๘. ขุ. อุ. ๒๕/ ๓๖๖.
๑๗๒. ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺจารึ.
ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม.
ขุ . ชา. ทสกฺ ๒๗/ ๒๙๐. ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๑๔.
๑๗๓ . น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.
ผู้ประพฤติธรรม ไม่ไปสู่ทุคติ.
ขุ . ชา. ทสก. ๒๗/ ๙๐. ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๑๔.
๑๗๔ . ธมฺเม ฐิตํ น วิชหาติ กิตฺติ.
เกียรติ ย่อมไม่ละผู้ตั้งอยู่ในธรรม.
องฺ . ปญฺจก. ๒๓/ ๕๑.
๑๗๕ . ธมฺเม ฐิตา เย น กโรนฺติ ปาปกํ.
ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่ทำบาป.
องฺ . จตุตกฺก. ๒๑/ ๒๕.
๑๗๖ . สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย.
สภาวธรรมทั้งปวง ไม่ควรถือมั่น.
ม . ม. ๑๒/ ๔๖๔.
๑๗๗ . โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ.
พึงเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย .
ม . อุปฺ ๑๔/ ๔๗๑. สํ. ส. ๑๕/ ๗๘. องฺ. สตฺตก. ๒๓/ ๓.
๑๗๘ . ธมฺมํ จเร สุจิตํ น ตํ ทุจฺจริตํ จเร.
พึงประพฤติธรรมให้สุจริต ไม่ควรประพฤติให้ทุจริต.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๘. ขุ. อุ. ๒๕/ ๓๖๖.
๑๗๙. สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ.
ควรเคารพสัทธรรม.
องฺ . จตุกฺก. ๒๑/ ๒๗.
๑๘๐ . กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย.
บัณฑิตควรละธรรมดำเสีย .
สํ . มหา. ๑๙/ ๒๙. ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๖.
๑๘๑ . สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต.
บัณฑิตควรเจริญธรรมขาว .
สํ . มหา. ๑๙/ ๒๙. ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๖.
อธมฺมํ ปฏิปนฺนสฺส โย ธมฺมมนุสาสติ
ตสฺส เจ วจนํ กยิรา น โส คจฺเฉยฺย ทุคฺคตึ.
ผู้ใดสอนธรรมแก่คนปฏิบัติไม่ถูก
ถ้าเขาทำตามคำของผู้นั้น จะไม่ไปสู่ทุคติ.
( พุทฺธ) ขุ. ชา สฏฺฐี. ๒๘/ ๓๙.
อุปารมฺภจิตฺโต ทุมฺเมโธ สุณาติ ชินสาสนํ
อารกา โหติ สทฺธมฺมา นภโส ปฐวี ยถา.
ผู้มีปัญญาทราม มีจิตใจกระด้าง ถึงฟังคำสอนของพระชินเจ้า
ก็ยังห่างไกลจากพระสัทธรรม เหมือนดินกับฟ้า.
( ยสทตฺตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๒๓.
ตณฺหาทุติโย ปุริโส ทีฆมทฺธาน สํสรํ
อิตฺถมฺภาวญฺ ถาภาวํ สํสารํ นาติวตฺตติ.
คนมีตัณหาเป็นเพื่อน ท่องเที่ยวอยู่ช้านาน
ไม่ล่วงพ้นสงสาร ที่กลับกลอกไปได้.
( ปจฺเจกพุทฺธ) ขุ. จู. ๓๐/ ๓๒๐.
นภญฺจ ทูเร ปฐวี จ ทูเร ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร
ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ สตญฺจ ธมฺโม อสตญฺจ ราช.
เขากล่าวว่า ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน
แต่ธรรมของสัตบุรุษกับของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น.
( พฺราหฺมณ) ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/ ๑๔๓.
นิกฺกุหา นิลฺลปา ธีรา อถทฺธา สุสมาหิตา
เต เว ธมฺเม วิรูหนฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเต.
ผู้ไม่คดโกง ไม่พูดเพ้อ มีปรีชา ไม่หยิ่ง มีใจมั่นคงนั้นแล
ย่อมงดงามในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว .
( พุทฺธ) องฺ. จตุกฺก. ๒๑/ ๓๔. ขุ. มหา. ๒๙/ ๑๕๑.
ปฏิโสตคามึ นิปุณํ คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ
ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ ตโมกฺขนฺเธน อาวุตา.
ผู้ถูกราคะย้อม ถูกกองมืด ( อวิชชา) ห่อหุ้มแล้ว
ย่อมไม่เห็นธรรมสำหรับฝืนใจอันละเอียดลออ ลึกซึ้ง ซึ่งเห็นได้ยาก.
( พุทฺธ) ที. มหา. ๑๐/ ๔๑.
ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมํ อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา
เต อิมํ ธมฺมํ ปกาเสนฺติ ทุกฺขูปสมคามินํ.
เมื่อพระพุทธเจ้า ผู้ทำความสว่างเกิดขึ้นในโลก,
พระองค์ย่อมประกาศธรรมสำหรับดับทุกข์นี้.
( สารีปุตฺต) ขุ. ปฏิ. ๓๑/ ๔๑๘.
ยสฺส สพฺรหมฺจารีสุ คารโว นุปลพฺภติ
อารกา โหติ สทฺธมฺมา นภํ ปฐวิยา ยถา.
ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนพรหมจารี ,
ผู้นั้นย่อมห่างจากพระสัทธรรม เหมือนฟ้ากับดินฉะนั้น.
( ภคุเถร) ขุ. เถร ๒๖/ ๓๑๑.
เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน
เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.
ชนเหล่าใดประพฤติธรรม ในธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว,
ชนเหล่านั้น จักข้ามแดนมฤตยูที่ข้ามได้ยาก.
( พุทธ) ขุ. ธ ๒๕/ ๒๖.
โย อิจฺเฉ ทิพฺพโภคญฺจ ทิพฺพมายุํ ยสํ สุขํ
ปาปานิ ปริวชฺเชตฺวา ติวิธํ ธมฺมมาจเร.
ผู้ใด ปรารถนาโภคทรัพย์ อายุ ยศ สุข อันเป็นทิพย์,
ผู้นั้นพึงงดเว้นบาปทั้งหลาย แล้วประพฤติสุจริตธรรม ๓ อย่าง.
( ราชธีดา) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๓๐๖.
โย จ อปฺปมฺปิ สุตฺวาน ธมฺมํ กาเยน ปสฺสติ
ส เว ธมฺมธโร โหติ โย ธมฺมํ นปฺปมชฺชติ.
ผู้ใดฟังธรรมแม้น้อย ย่อมเห็นธรรมด้วยกาย
ผู้ใดไม่ประมาทธรรม ผู้นั้นแล ชื่อว่าผู้ทรงธรรม.
( พุทธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๙.
โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ ปญฺญายตฺถํ วิปสฺสติ
ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ วิโมกฺโข โหติ เจตโส.
ควรเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย , จะเห็นอรรถแจ่มแจ้งได้ด้วย
ปัญญา , ความหลุดพ้นแห่งใจย่อมมี เหมือนไฟดับ.
( พุทฺธ) องฺ. สตฺตก. ๒๓/ ๔.
อตฺถงฺคตสฺส น ปมาณมตฺถิ เยน นํ วชฺชึ ตํ ตสฺส นตฺถิ
สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สมูหเตสุ สมูหตา วาทปถาปิ สพฺเพ.
ท่านผู้ดับไป ( คือปรินิพพาน ) แล้ว ไม่มีประมาณ,
จะพึงกล่าวถึงท่านนั้นด้วยเหตุใด เหตุนั้นของท่านก็ไม่มี,
เมื่อธรรมทั้งปวง( มีขันธ์เป็นต้น ) ถูกเพิกถอนแล้ว
แม้คลองแห่งถ้อยคำที่จะพูดถึง( ว่าผู้นั้นเป็นอะไร )
ก็เป็นอันถูกเพิกถอนเสียทั้งหมด.
( พุทฺธ ) ขุ. ส. ๒๕/ ๕๓๙. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๓๙.
อาทานตณฺหํ วินเยถ สพฺพํ อุทฺธํ อโธ ติริยํ วาปิ มชฺเฌ
ยํ ยํ หิ โลกสฺมึ อุปาทิยนฺติ เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุํ.
พึงขจัดตัณหาที่เป็นเหตุถือมั่นทั้งปวง ทั้งเบื้องสูง เบื้องต่ำ
เบื้องขวาง ท่ามกลาง, เพราะเขาถือมั่นสิ่งใด ๆ ในโลกไว้
มารย่อมติดตามเขาไป เพราะสิ่งนั้น ๆ.
( พุทฺธ ) ขุ. ส. ๒๕/ ๕๔๖. ขุ. จู. ๓๐/ ๒๐๒.
อุจฺฉินฺท สิเนหมตฺตโน กุมุทํ สารทิกํว ปาณินา
สนฺติมคฺคเมว พฺรูหย นิพฺพานํ สุคเตน เทสิตํ.
จงเด็ดเยื่อใยของตนเสีย เหมือนเอาฝ่ามือเด็ดบัวในฤดูแล้ง
จงเพิ่มพูนทางสงบ ( ให้ถึง ) พระนิพพานที่พระสุคตแสดงแล้ว.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๕๓.
โอวเทยฺยานุสาเสยฺย อสพฺภา จ นิวารเย
สติ หิ โส ปิโย โหติ อสตํ โหติ อปฺปิโย.
บุคคลควรเตือนกัน ควรสอนกัน และป้องกันจากคนไม่ดี
เพราะเขาย่อมเป็นที่รักของคนดี แต่ไม่เป็นที่รักของคนไม่ดี.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๕.
กาเมสุ พฺรหฺมจริยวา วีตตณฺโห สทา สโต
สงฺขาย นิพฺพุโต ภิกฺขุ ตสฺส โน สนฺติ อิญฺชิตา.
ภิกษุผู้เห็นโทษในกาม มีความประพฤติประเสริฐ
ปราศจากตัณหา สติทุกเมื่อ พิจารณาแล้ว ดับกิเลสแล้ว
ย่อมไม่มีความหวั่นไหว.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๓๑. ขุ. จู. ๓๐/ ๓๕.
ขตฺติโย จ อธมฺมฏฺโฐ เวสฺโส จาธมฺมนิสฺสิโต
เต ปริจฺจชฺชุโภ โลเก อุปปชฺชนฺติ ทุคฺคตึ.
กษัตริย์ไม่ทรงตั้งอยู่ในธรรม และแพศย์ [ คนสามัญ ]
ไม่อาศัยธรรม ชนทั้ง ๒ นั้นละโลกแล้ว ย่อมเข้าถึงทุคติ.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. ปญฺจก. ๒๗/ ๑๗๕.
คตทฺธิโน วิโสกสฺส วิปฺปมุตฺตสฺส สพฺพธิ
สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส ปริฬาโห น วิชฺชติ.
ท่านผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว หายโศก หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง
ละกิเลสเครื่องรัดทั้งปวงแล้ว ย่อมไม่มีความเร่าร้อน.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๗.
จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน
องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต.
พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ , เมื่อรักษาชีวิตพึงสละอวัยวะ,
เมื่อคำนึงถึงธรรม พึงสละอวัยวะ ทรัพย์ และแม้ชีวิต ทุกอย่าง.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/ ๑๔๗.
ฉนฺทชาโต อนกฺขาเต มนสา จ ผุโฐ สิยา
กาเม จ อปฏิพทฺธจิตฺโต อุทฺธํโสโตติ วุจฺจติ.
พึงเป็นผู้พอใจและประทับใจในพระนิพพานที่บอกไม่ได้
ผู้มีจิตไม่ติดกาม ท่านเรียกว่าผู้มีกระแสอยู่เบื้องบน.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๔.
ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา
เอตํ ตฺวา ยถาภูตํ นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ.
ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง สังขารเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
รู้ข้อนั้นตามเป็นจริงแล้ว ดังเสียได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๒.
ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ
สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ.
ราชรถอันงดงามย่อคร่ำคร่า แม้ร่างกายก็เข้าถึงชรา
ส่วนธรรมของสัตบุรุษย่อมไม่เข้าถึงชรา
สัตบุรุษกับสัตบุรุษเท่านั้นย่อมรู้กันได้.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๑๐๒.
เต ฌายิโน สาตติกา นิจฺจํ ทฬฺหปรกฺกมา
ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ โยคกุเขมํ อนุตฺตรํ.
ผู้ฉลาดนั้นเป็นผู้เพ่งพินิจ มีเพียรติดต่อ บากบั่นมั่นคงเป็นนิตย์
ย่อมถูกต้องพระนิพพานอันปลอดจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ .
( พุทฺธ ) ขุ. ธ . ๒๕/ ๑๘.
ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ ทุกฺขํ ติฏฺฐติ เวติ จ
นาญฺญตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ นาญฺญตฺร ทุกฺขา นิรุชฺฌติ.
ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และเสื่อมไป
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ.
( วชิราภิกฺขุนี ) สํ. ส. ๑๕/ ๑๙๙. ขุ. มหา. ๒๙/ ๕๓๖.
ธมฺโม ปโถ มหาราช อธมฺโม ปน อุปฺปโถ
อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ.
มหาราช ! ธรรมเป็นทาง ( ควรดำเนินตาม )
ส่วนอธรรมนอกลู่นอกทาง ( ไม่ควรดำเนินตาม )
อธรรมนำไปนรก ธรรมให้ถึงสวรรค์.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. สฏฺฐิ. ๒๘/ ๓๙.
นนฺทิสญฺโญชโน โลโก วิตกฺกสฺส วิจารณา
ตณฺหาย วิปฺปหาเนน นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ.
สัตว์โลกมีความเพลินเป็นเครื่องผูกพัน มีวิตกเป็นเครื่องเที่ยวไป
ท่านเรียกว่านิพพาน เพราะละตัณหาได้.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๔๗. ขุ. จู ๓๐/ ๒๑๖, ๒๑๗.
นาญฺญตฺร โพชฺฌาตปสา นาญฺญตฺร อินฺทฺริยสํวรา
นาญฺญตฺร สพฺพนิสฺสคฺคา โสตฺถึ ปสฺสามิ ปาณินํ.
เรา ( ตถาคต ) ไม่เห็นความสวัสดีของสัตว์ทั้งหลาย นอกจาก
ปัญญา ความเพียร ความระวังตัว และการสละสิ่งทั้งปวง.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๗๕.
ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา ติฏฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกา
ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปตฺโต นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
เบญจขันธ์ที่กำหนดรู้แล้ว มีรากขาดตั้งอยู่
ถึงความสิ้นทุกข์แล้ว ก็ไม่มีภพต่อไปอีก.
( พฺรหฺมทตฺตเถรี ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๓๔.
ปตฺตา เต นิพฺพานํ เย ยุตฺตา ทสพลสฺส ปาวจเน
อุปฺโปสฺสุกฺกา ฆเฏนฺติ ชาติมรณปฺปหานาย.
ผู้ใดประกอบในธรรมวินัยของพระทศพล มีความขวนขวายน้อย
พากเพียรละความตาย ผู้นั้นย่อมบรรลุพระนิพพาน.
( สุเมธาเถร ) ขุ. เถรี. ๒๖/ ๕๐๒.
พหุสฺสุตํ อุปาเสยฺย สุตญฺจ น วนาสเย
ตํ มูลํ พฺรหฺมจริยสฺส ตสฺมา ธมฺมธโร สิยา.
พึงนั่งใกล้ผู้เป็นพหูสูต และไม่พึงทำสุตะให้เสื่อม
สุตะนั้นเป็นรากแห่งพรหมจรรย์ เพราะฉะนั้น ควรเป็นผู้ทรงธรรม.
( อานนฺทเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๔๐๖.
มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ สจฺจานํ จตุโร ปทา
วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ ทิปทานญฺจ จกฺขุมา.
บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์ ๘ ประเสริฐสุด,
บรรดาสัจจะทั้งหลาย บท ๔ ประเสริฐสุด,
บรรดาธรรมทั้งหลาย วิราคะธรรมประเสริฐสุด,
และบรรดาสัตว์ ๒ เท้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าผู้มีจักษุประเสริฐสุด.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๕๑.
ยตฺถ นามญฺจ รูปญฺจ อเสสํ อุปรุชฺฌติ
วิญฺญาณสฺส นิโรเธน เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ.
นามและรูปย่อมดับไม่เหลือในที่ใด
นามและรูปนี้ย่อมดับในที่นั้น เพราะวิญญาณดับ.
( พุทฺธ ) ขุ. สุง ๒๕/ ๕๓๑. ขุ. จู. ๓๐/ ๒๑.
ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ อหึสา สญฺญโม ทโม
เอตทริยา เสวนฺติ เอตํ โลเก อนามตํ.
สัจจะ ธรรมะ อหิงสา สัญญมะ และทมะ มีอยู่ในผู้ใด
อารยชนย่อมคบผู้นั้น นั่นเป็นธรรมอันไม่ตายในโลก.
( อุปสมฬฺหาโพธิสตฺต ) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/ ๕๘.
ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ สติ เตสํ นิวารณํ
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ ปญฺญาเยเต ปิถิยฺยเร.
กระแสเหล่าใดมีอยู่ในโลก สติเป็นเครื่องกั้นกระแสเหล่านั้น
เรากล่าวว่าสติเป็นเครื่องกั้นกระแส กระแสเหล่านั้น
อันบุคคลปิดกั้นได้ด้วยปัญญา.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๓๐. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๖, ๒๐.
เย สนฺตจิตฺตา นิปกา สติมนฺโต จ ฌายิโน
สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสนฺติ กาเมสุ อนเปกฺขิโน.
ผู้มีจิตสงบ มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีสติ เป็นผู้เพ่งพินิจ
ไม่เยื่อใยในกาม ย่อมเห็นธรรมโดยชอบ .
( พุทฺธ ) ขุ. อิติ. ๒๕/ ๒๖๐.
โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน นิปฺปปญฺจปเท รโต
อาราธยิ โส นิพฺพานํ โยคกุเขมํ อนุตฺตรํ.
ผู้ใดละปปัญจธรรมที่ทำให้เนิ่นช้าได้แล้ว ยินดีในธรรม
ที่ไม่มีสิ่งทำให้เนิ่นช้า ผู้นั้นก็บรรลุพระนิพพานอันปลอดจากโยคะ
ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.
( สารีปุตฺต ) องฺ. ฉกฺก. ๒๒/ ๓๒๙.
สกํ หิ ธมฺมํ ปริปุณฺณมาหุ อญฺญสฺส ธมฺมํ ปน หีนมาหุ
เอวมฺปิ วิคฺคยฺห วิวาทยนฺติ สกํ สกํ สมฺมติมาหุ สจฺจํ.
สมณพราหมณ์บางเหล่ากล่าวธรรมของตนว่าบริบูรณ์ ,
แต่กล่าวธรรมของผู้อื่นว่าเลว ( บกพร่อง ), เขาย่อมทะเลาะวิวาทกัน
แม้ด้วยเหตุนี้ เพราะต่างก็กล่าวข้อสมมติของตน ๆ ว่าเป็นจริง.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๑๑. ขุ. มหา. ๒๙/ ๓๘๓.
สมฺมปฺปธานสมฺปนฺโน สติปฏฺฐานโคจโร
วิมุตฺติกุสุมสญฺฉนฺโน ปรินิพฺพายิสฺสตฺยนาสโว.
ผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมัปปธาน มีสติปัฏฐานเป็นอารมณ์
ดาดาษด้วยดอกไม้คือวิมุตติ หาอาสวะมิได้ จักปรินิพพาน.
( เทวสภเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๒๘๒.
สุสุขํ วต นิพฺพานํ สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ
อโสกํ วิรชํ เขมํ ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ.
พระนิพพานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว
ไม่มีโศก ปราศจากธุลี เกษม เป็นที่ดับทุกข์ เป็นสุขดีหนอ.
( หาริตเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๐๙.
โสรจฺจํ อวิหึสา จ ปาทา นาคสฺส เต ทุเว
สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ จรณา นาคสฺส เต ปเร.
โสรัจจะและอวิหิงสานั้น เป็นช้างเท้าหลัง
สติและสัมปชัญญะนั้น เป็นช้างเท้าหน้า.
( อุทายีเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๖๘.
หีนํ ธมฺมํ น เสเวยฺย ปมาเทน น สํวเส
มิจฺฉาทิฏฺฐึ น เสเวยฺย น สิยา โลกวฑฺฒโน.
ไม่ควรเสพธรรมที่เลว ไม่ควรอยู่กับความประมาท
ไม่ควรเสพมิจฉาทิฏฐิ ไม่ควรเป็นคนรกโลก.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๓๗.
หีเนน พฺรหฺมจริเยน ขตฺติเย อุปปชฺชติ
มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ อุตฺตเมน วิสุชฺฌติ.
บุคคลย่อมเข้าถึงความเป็นกษัตริย์ ด้วยพรหมจรรย์อย่างเลว,
ถึงความเป็นเทวดา ด้วยพรหมจรรย์อย่างกลาง,
ย่อมบริสุทธิ์ ด้วยพรหมจรรย์อย่างสูง.
( พุทฺธ ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๑๙๙.
|