๑๒ . ปกิณณกวรรค คือ หมวดเบ็ดเตล็ด
๑๘๒ . อฏฺฐงฺคิโก จ มคฺคานํ เขมํ อมตคามินํ.
บรรดาทางทั้งหลาย ทางมีองค์ ๘ เป็นทางเกษมให้ถึงอมตธรรม.
ม . ม. ๑๓/ ๒๘๑.
๑๘๔ . ยงฺกิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ.
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นล้วนมี ความดับไปเป็นธรรมดา .
สํ . มหา. ๑๙/ ๕๓๑.
๑๘๖ . อาโรคฺยปรมา ลาภา.
ความไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง.
ม . ม. ๑๓/ ๒๘๑. ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๒.
๑๘๗ . ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา.
ความหิว เป็นโรคอย่างยิ่ง.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๔๒.
๑๘๘ . สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ.
สังขารที่ยั่งยืน ไม่มี.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๔๙.
๑๘๙ . อนิจฺจา วต สงฺขารา.
สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยงหนอ.
ที . มหา. ๑๐/ ๑๘๑. สํ. ส. ๑๕/ ๘. สํ. นิ. ๑๖/ ๒๒๘.
๑๙๑. ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.
การเห็นพระพุทธเจ้าเนือง ๆ เป็นการหาได้ยาก.
ม . ม. ๑๓/ ๕๕๔. ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๔๔.
๑๙๒ . ขโณ โว มา อุปจฺจคา.
ขณะอย่าล่วงท่านทั้งหลายไปเสีย .
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๒๓๑. ขุ. ธ. ๒๕/ ๕๗. ขุ. สุ. ๒๕/ ๓๘๙.
๑๙๓ . อติปตติ วโย ขโณ ตเถว.
วัยย่อมผ่านพ้นไปเหมือนขณะทีเดียว .
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๑๒.
๑๙๔ . กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา.
กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเอง.
ขุ . ชา. ทุก. ๒๗/ ๙๕.
๑๙๕ . อิติ วิสฺสฏฺฐกมฺมนฺเต อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเว.
ประโยชน์ย่อมล่วงเลยคนหนุ่มผู้ทอดทิ้งการงาน .
ที . ปาฏิ. ๑๑/ ๑๙๙.
๑๙๖ . นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา.
ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่ผู้มัวถือฤกษ์อยู่ .
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๖.
๑๙๗. อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา.
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดวงดาวจักทำอะไรได้.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๖.
๑๙๘ . วโส อิสฺสริยํ โลเก.
อำนาจเป็นใหญ่ในโลก .
สํ . ส. ๑๕/ ๖๐.
๑๙๙ . สิริ โภคานมาสโย.
ศรีเป็นที่อาศัยแห่งโภคทรัพย์ .
สํ . ส. ๑๕/ ๖๑.
๒๐๐ . กิจฺฉา วุตฺติ อสิปฺปสฺส.
ความเป็นไปของคนไร้ศิลปะ ย่อมฝืดเคือง.
ขุ . ชา. ทฺวาทส. ๒๗/ ๓๓๐.
๒๐๑ . สาธุ โข สิปฺปกํ นาม อปิ ยาทิสกีทิสํ.
ขึ้นชื่อว่าศิลปะแม้เช่นใดเช่นหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๕.
๒๐๘ . สพฺพญฺเจ ปฐวึ ทชฺชา นากตญฺญุมภิราธเย.
ถึงให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักไม่ได้.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๒๓.
๒๐๙. หนฺนติ โภคา ทุมฺเมธํ.
โภคทรัพย์ ย่อมฆ่าคนมีปัญญาทราม.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๖๓.
๒๑๐ . สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ.
สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่วเสีย.
วิ . จุล. ๗/ ๑๗๒. สํ. ส. ๑๕/ ๒๒๖. สํ. นิ. ๑๖/ ๒๘๔.
๒๑๑ . กิโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ.
ความได้เป็นมนุษย์ เป็นการยาก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๙.
๒๑๒ . กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ.
ความเป็นอยู่ของสัตว์ เป็นการยาก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๙.
๒๑๓ . กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ.
การฟังธรรมของสัตบุรุษ เป็นการยาก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๙.
๒๑๔ . กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท.
ความเกิดแห่งท่านผู้รู้ เป็นการยาก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๙.
๒๑๕ . อสชฺฌายมลา มนฺตา.
มนต์มีการไม่ท่องบ่น เป็นมลทิน.
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๗.
๒๑๖. อนุฏฺฐานมลา ฆรา.
เหย้าเรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน.
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๗.
๒๑๗ . มลํ วณฺณสฺส โกสชฺชํ.
ความเกียจคร้านเป็นมลทินแห่งผิวพรรณ .
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๗.
๒๑๘ . มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ.
ความประพฤติชั่วเป็นมลทินของหญิง .
องฺ . อฏฺฐก. ๒๓/ ๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๗.
๒๑๙ . สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ.
ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์ มีเฉพาะตัว.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๗. ขุ. มหา. ๒๙/ ๓๗. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๑๖.
๒๒๐ . นาญฺโญ อญญํ วิโสธเย.
ผู้อื่นพึงให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ไม่ได้ .
ขุ . ธ. ๒๕/ ๓๗. ขุ. มหา. ๒๙/ ๓๗. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๑๖.
๒๒๑ . สุทฺธสฺส สุจิกมฺมสฺส สทา สมฺปชฺชเต วตํ.
พรตของผู้บริสุทธิ์มีการงานสะอาด ย่อมถึงพร้อมทุกเมื่อ.
ม . ม. ๑๒/ ๗๐.
๒๒๒ . สุทฺสฺสํ วชฺชมญฺเ สํ อตฺตาโน ปน ทุทฺทสํ.
ความผิดของผู้อื่นเห็นง่าย ฝ่ายของตนเห็นยาก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๔๘.
๒๒๓ . นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต.
ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำบาปกรรม ไม่มีในโลก.
องฺ . ติก. ๒๐/ ๑๘๙. ขุ. ชา. จตุตกฺก. ๒๗/ ๑๓๑.
๒๒๔ . เนสา สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต.
สัตบุรุษไม่มีในชุมนุมใด ชุมนุมนั้นไม่ชื่อว่าสภา.
สํ . ส. ๑๕/ ๒๗๐. ขุ. ชา. อสีติ. ๒๘/ ๑๕๑.
๒๒๖ . โภคา สนฺนิจยํ ยนฺติ วมฺมิโกวูปจียติ.
โภคทรัพย์ของผู้ครองเรือนดี ย่อมถึงความพอกพูน เหมือนจอมปลวกกำลังก่อขึ้น.
ที . ปาฏิ. ๑๑/ ๒๐๒.
๒๒๗ . อลํ พาลสฺส โมหาย โน จ ปารคเวสิโน.
รูปโฉมพอลวงคนโง่ให้หลงได้ แต่ลวงคนแสวงหาพระนิพพานไม่ได้เลย.
ม . ม. ๑๓/ ๔๐๑. ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๗๗.
๒๒๘ . รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ น ชีรติ.
ร่างกายของสัตว์ย่อยยับได้ แต่ชื่อและสกุลไม่ย่อยยับ.
สํ . ส. ๑๕/ ๕๙.
๒๒๙. ถีนํ ภาโว ทุราชาโน.
ภาวะของหญิงรู้ได้ยาก.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๒๑.
๒๓๐ . อุกฺกฏฺเฐ สูรมิจฺฉนฺติ.
ในเวลาคับขัน ย่อมต้องการคนกล้า.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๐.
๒๓๑ . มนฺตีสุ อกุตูหลํ.
ในบรรดาที่ปรึกษา ย่อมต้องการคนไม่พูดพล่าม.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๐.
๒๓๒ . ปิยญฺจ อนฺนปานมฺหิ.
ในเวลามีข้าวน้ำ ย่อมต้องการคนที่รัก.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๐.
๒๓๓ . อตฺเถ ชาเต จ ปณฺฑิตํ.
ในเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้น ย่อมต้องการบัณฑิต.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๓๐.
๒๓๔ . อาปทาสุ ถาโม เวทิตพฺโพ.
กำลังใจพึงรู้ได้ในคราวมีอันตราย .
นัย - ขุ. อุ. ๒๕/ ๑๗๘.
๒๓๕ . ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย.
ได้ยศแล้ว ไม่ควรเมา.
ขุ . ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๔๕.
๒๓๖. จาคมนุพฺรูเหยฺย.
พึงเพิ่มพูลความสละ.
ม . อุป. ๑๔/ ๔๓๖.
๒๓๗ . สนฺติเมว สิกฺเขยฺย.
พึงศึกษาความสงบนั่นแล .
นัย - ม. อุป. ๑๔/ ๔๓๖.
๒๓๘ . โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข.
ผู้เพ่งสันติ พึงละอามิสในโลกเสีย.
สํ . ส. ๑๕/ ๓, ๗๗, ๙๐.
๒๓๙ . ตํ คณฺเหยฺย ยทปณฺณกํ.
สิ่งใดไม่ผิด พึงถือเอาสิ่งนั้น.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑.
๒๔๒ . สนาถา วิหรถ มา อนาถา.
ท่านทั้งหลายจงมีที่พึ่งอยู่เถิด อย่าไม่มีที่พึ่งอยู่เลย.
นัย . องฺ. ทสกฺ ๒๔/ ๒๕.
๒๔๓. นาญญํ นิสฺสาย ชีเวยฺย.
ไม่ควรอาศัยผู้อื่นเป็นอยู่.
ขุ . อุ. ๒๕/ ๑๗๙.
๒๔๔ . อาโรคฺยมิจฺเฉ ปรมญฺจ ลาภํ.
พึงปรารถนาความไม่มีโรคซึ่งเป็นลาภอย่างยิ่ง .
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๒๗.
๒๔๕ . อตีตํ นานฺวาคเมยฺย.
ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว .
ม . อุป. ๑๔/ ๓๔๘.
๒๔๖ . นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ.
ไม่ควรหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง .
ม . อุป. ๑๔/ ๓๔๘.
อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ อชินิ มํ อหาสิ เม
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ เวรํ เตสํ น สมฺมติ.
ผู้ใด ผูกอาฆาตว่า เขาได้ด่าเรา ได้ฆ่าเรา ได้ชนะเรา
ได้ลักของของเรา ดังนี้ เวรของผู้นั้นย่อมไม่ระงับ.
( พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๑๕.
อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ อชินิ มํ อหาสิ เม
เย จ ตํ นูปนยฺหนฺติ เวรํ เตสูปสมฺมติ.
ผู้ใดผูกอาฆาตว่า เขาได้ด่าเรา เขาได้ฆ่าเรา ได้ชนะเรา
ได้ลัก ได้ลักของของเรา ดังนี้ เวรของผู้นั้นย่อมระงับ.
( พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๑๕.
อจฺจิ ยถา วาตเวเคน ขิตฺตํ อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ
เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ.
เปลวไฟที่ถูกกำลังลมพัดดับวูบไป ย่อมกำหนดนับไม่ได้ฉันใด,
ผู้รู้พ้นไปแล้วจากนามกาย ดับวูบไป ย่อมกำหนดนับไม่ได้ฉันนั้น.
( พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๓๙. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๓๖.
อินฺทฺริยานิ มนุสฺสานํ หิตาย อหิตาย จ
อรกฺขิตานิ อหิตาย รกฺขิตานิ หิตาย จ.
อินทรีย์ของมนุษย์มีอยู่เพื่อประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์ คือ
ที่ไม่รักษา ไม่เป็นประโยชน์, ที่รักษา จึงเป็นประโยชน์.
( ปาราสริยเถร) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๗๒.
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน
โลภสฺส น วสํ คจฺเฉ หเนยฺย ทิสกํ มนํ.
ผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน ไม่พึงลุอำนาจของ
โลภะ พึงกำจัดน้ำใจที่ละโมภเสีย.
( พุทฺธ) ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗/ ๓๙๖.
นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ อตฺดถ พาลํ อุปจฺจคา
อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา.
ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่ ,
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้.
( โพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/ ๑๖.
น สาธุ พลวา พาโล สาหสํ วินฺทเต ธนํ
กนฺทนฺตเมตํ ทุมฺเมธํ กฑฺฒนฺติ นิรยํ ภุสํ.
คนเขลา มีกำลัง หาทรัพย์อย่างผลุนผลัน ไม่ดี, นายนิรยบาล
ย่อมฉุดคนโง่มีปัญญาทรามผู้คร่ำครวญอยู่นั้น ไปสู่นรกอันร้ายกาจ.
( มโหสถโพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/ ๔๒๕.
ปญฺจ กามคุณา โลเก มโนฉฏฺฐา ปเวทิตา
เอตฺถ ฉนฺทํ วิราชิตฺวา เอวํ ทุกฺขา ปมุจฺจติ.
กามคุณ ๕ ในโลก มีใจเป็นที่ ๖ อันท่านชี้แจงไว้แล้ว,
บุคคลคลายความพอใจในกามคุณนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ได้อย่างนี้.
( พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/ ๒๓.
ปรทุกฺขูปธาเนน โย อตฺตโน สุขมิจฺฉติ
เวรสํสคฺคสํสฏฺโฐ เวรา โส น ปริมุจฺจติ.
ผู้ใด ต้องการสุขเพื่อตน ด้วยการก่อทุกข์แก่ผู้อื่น,
ผู้นั้นชื่อว่า พัวพันไปด้วยเวร ย่อมไม่พ้นจากเวร.
( พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๕๓.
ปริตฺตํ ทารุมารุยฺห ยถา สีเท มหณฺณเว
เอวํ กุสีตมาคมฺม สาธุชีวีปิ สีหติ.
คนเกาะไม้ฟืนเล็ก ๆ พึงจมลงในทะเลฉันใด
คนมั่งมีอาศัยความเกียจคร้านก็ล่มจมฉันนั้น.
( วิมลเถร) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๐๙.
พลํ จนฺโท พลํ สุริโย พลํ สมณพฺราหฺมณา
พลํ เวลา สมุทฺทสฺส พลาติพลมิตฺถิโย.
พระจันทร์ พระอาทิตย์ สมณพราหมณ์ และฝั่งทะเล
ต่างก็มีกำลัง, แต่สตรีมีกำลังยิ่งกว่ากำลัง ( เหล่านั้น).
( มหาชนก) ขุ. ชา. นวก. ๒๗/ ๒๖๑.
พหูนํ วต อตฺถาย อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา
อิตฺถีนํ ปุริสานญฺจ เย เต สาสนการกา.
พระตถาคตเจ้าย่อมเกิดขึ้น เพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก
คือ สตรีและบุรุษผู้ทำตามคำสอน.
( วงฺคีสเถร) ขุ. เถร. ๒๖/ ๔๓๗.
ยตฺถ โปสํ น ชานนฺติ ชาติยา วินเยน วา
น ตตฺถ มานํ กยิราถ วสํ อญฺญาตเก ชเน.
ในที่ใด ยังไม่รู้จักคนโดยกำเนิดหรือโดยขนบประเพณี
เมื่ออยู่ในที่นั้น หมู่คนที่ยังไม่รู้จักกัน ไม่ควรทำความถือตัว.
( มหาททฺทรโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๓๑.
เย จ กาหนฺติ โอวาทํ นรา พุทฺเธน เทสิตํ
โสตฺถึ ปรํ คมิสฺสนฺติ วลาเหเนว วาณิชา.
คนใด จัดทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว คนนั้นจักถึงฝั่งที่สวัสดี
เหมือนพ่อค้าถึงฝั่งที่สวัสดีเพราะม้าวลาหก .
( พุทฺธ) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/ ๗๑.
เย วุฑฺฒมปจายนฺติ นรา ธมฺมสฺส โกวิทา
ทิฏฺเฐ ธมฺเม จ ปาสํสา สมฺปราโย จ สุคฺคติ.
คนรู้จักขนบธรรมเนียม ย่อมยำเกรงผู้เฒ่าผู้แก่
ในชาตินี้ก็มีผู้สรรเสริญ ชาติหน้าก็ไปดี.
( พุทฺธ) ขุ. ชา เอก. ๒๗/ ๑๒.
รูปา สทฺทา คนฺธา รสา ผสฺสา ธมฺมา จ เกวลา
เอตํ โลกามิสํ โฆรํ เอตฺถ โลโก วิมุจฺฉิโต.
รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ และธรรมารมณ์นั้น ล้วนเป็น
โลกามิสอันร้ายกาจ , สัตวโลกหมกมุ่นอยู่ในอารมณ์เหล่านี้.
( พุทฺธ) สฺ ส. ๑๕/ ๑๖๖.
วิเทสวาสํ วสโต ชาตเวทสเมนปิ
ขมิตพฺพํ สปญฺเ น อปิ ทาสสฺส ตชฺชิตํ.
แม้มีปัญญารุ่งโรจน์อย่างไฟ เมื่อยู่ในต่างประเทศก็ควรอดทน
คำขู่เข็ญแม้ของทาส .
( มหาททฺทรโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๓๑.
อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ
น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา.
สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้. สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้,
โภคะของสตรีหรือบุรุษที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย.
( มหาชนกโพธิสตฺต ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๑๖๗.
อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ เวทนํ นาภินนฺทโต
เอวํสตสฺส จรโต วิญฺญาณํ อุปรุชฺฌติ.
บุคคลไม่เพลินเวทนา ทั้งภายในทั้งภายนอก
มีสติดำเนินอยู่อย่างนี้ วิญญาณย่อมดับ.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๔๗. ขุ. จู. ๓๐/ ๒๑๘.
อชฺฌตฺตเมว อุปสเม นาญฺญโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺย
อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส นตฺถิ อตฺตํ กุโต นิรตฺตํ วา.
ภิกษุพึงสงบกิเลสและบาปธรรมที่เป็นภายในเสีย ,
ไม่พึงแสวงหาความสงบจากที่อื่น, เมื่อระงับภายในได้แล้ว
สิ่งที่จะพึงยึดถือใหม่ย่อมไม่มี สิ่งที่ยึดถือไว้จำจะสละจะมีแต่ไหน.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๑๔. ขุ. มหา. ๒๙/ ๔๒๕, ๔๒๖.
อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ.
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ นิรยนฺเต อุปปชฺชเร.
กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก
ทุกข์อันยิ่งกว่ากามไม่มี ผู้ใดส้องเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา เอกาทสก. ๒๗/ ๓๑๕.
อพฺยาปชฺโฌ สิยา เอวํ สจฺจวาที จ มาณโว
อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ เอวํ เปจฺจ น โสจติ.
พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน ( ผู้อื่น ) และกล่าวคำสัตย์อย่างนี้
ละไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก.
( พุทฺธ ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๓๓๒.
อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ อสญฺญโต ปพฺพชิโต น สาธุ
ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี โย ปญฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.
คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่ดี, บรรพชิตไม่สำรวม ก็ไม่ดี
พระราชาไม่ทรงใคร่ครวญก่อนแล้วทำ ไม่ดี. บัณฑิตมักโกรธ ก็ไม่ดี.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/ ๔๔๖.
อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสฺสิโน
เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มีจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่า
ไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๑๖.
อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ.
บุคคลไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ใฝ่หาสิ่งที่ยังมาไม่พึง,
ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น
ผิวพรรณย่อมผ่องใส.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๗.
อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน
นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ.
เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร
มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข.
( สิงฺคิลโพธิสตฺต ) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๔๒.
อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร
ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ.
คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน
ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ . ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย.
( พุทฺธ ) สุ. ขุ. ๒๕/ ๓๔๗.
อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา
ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ ตํ สินานมโนทกํ.
หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ ประชาชนนี้ข้องอยู่ในหญิงนี้
ตบะและพรหมจรรย์เป็นเครื่องอาบ ไม่ใช่น้ำ.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๕๒.
อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุํ ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา
เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข.
ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว
ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่งความสงบ
พึงละโลกามิสเสีย.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๗๗.
อุปสนฺโต อุปรโต มนฺตภาณี อนุทฺธโต
ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม ทุมปตฺตํว มาลุโต.
ผู้สงบ เว้นบาป ฉลาดพูด ไม่ฟุ้งซ่าน
ย่อมขจัดบาปธรรมเสียได้ เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น.
( มหาโกฏฺฐิตเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๒๖๐.
เอวญฺเจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทุกฺขายํ ชาติสมฺภโว
น ปาโณ ปาณินํ หญฺเญ ปาณฆาตี หิ โสจติ.
ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้ ' ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์ '
สัตว์ก็ไม่ควรฆ่าสัตว์ เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก.
( รุกฺขเทวตาโพธิสตฺต ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/ ๖.
กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย มนสานาวิโล สิยา
กุสโล สพฺพธมฺมานํ สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.
ภิกษุไม่ควรติดในกามทั้งหลาย ควรมีใจไม่ขุ่นมัว
ควรเป็นผู้ฉลาดในธรรมทั้งปวง ควรมีสติอยู่ทุกอิริยาบถ.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๓๑. ขุ. จู. ๓๐/ ๒๖.
ตานิ เอตานิ ทิฏฺฐานิ ภวเนตฺติ สมูหตา
อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
เห็นอริยสัจแล้ว ถอนตัณหาผู้นำไปสู่ภพได้แล้ว
ตัดมูลรกแห่งทุกข์ขาดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีกต่อไป.
( พุทฺธ ) ที. มหา. ๑๐/ ๑๐๗.
ทาเนน สมจริยาย สํยเมน ทเมน จ
ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ.
คนทำกรรมใดด้วยทาน ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ
ด้วยความสำรวม และด้วยการฝึกตน ย่อมมีความสุข
เพราะกรรมนั้น ย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗/ ๓๙๘.
นิทฺทาสีลี สภาสีลี อนุฏฺฐาตา จ โย นโร
อลโส โกธปญฺญาโณ ตํ ปราภวโต มุขํ.
คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน
มีความมุทะลุ ข้อนั้นเป็นเหตุของผู้ฉิบหาย.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๓๔๖.
ธโช รถสฺส ปญฺญาณํ ธูโม ปญฺญาณมคฺคิโน
ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา.
ธงเป็นเครื่องปรากฏของรถ ควันเป็นเครื่องปรากฏของไฟ
พระราชาเป็นเครื่องปรากฏ ของแว่นแคว้น
สามีเป็นเครื่องปรากฏ ของสตรี.
( พุทฺธ ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๓๘๖.
ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ
ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ สทฺธมฺมา น ปริหายติ.
ภิกษุรื่นรมย์ยินดีในธรรม ใคร่ครวญธรรม
และระลึกถึงธรรมอยู่เนือง ๆ ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๖๕.
ปตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต
ปสฺสนฺติ วนภูตานิ ตํ พาโล มญฺญเต รโห.
ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำความชั่วไม่มีอยู่ในโลก ,
คนทั้งหลายเห็นเป็นป่า แต่คนเขลาสำคัญที่นั้นว่าเป็นที่ลับ.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๓๑.
น สานกามสฺส ทโม อิธตฺถิ น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺส
เอโก อรญฺเญ วิหรมฺปมตฺโต น มจฺจุเธยฺยสฺส ตเรยฺย ปารํ.
ในโลกนี้ ผู้ที่ชอบถือตัว ย่อมไม่มีการฝึกตน, ตนมีใจไม่มั่นคง
ย่อมไม่มีความรู้, ผู้ประมาทแม้อยู่ในป่าคนเดียว ก็ข้ามฝั่ง แห่งแดนมฤตยูไม่ได้ .
( เทวตา ) สํ. ส. ๑๕/ ๖.
น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ
อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ.
ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของคนอื่น , ไม่ควรมองดูการงานของคนอื่น
ที่เขาทำแล้วยังไม่ได้ทำ, ควรพิจารณาดูแต่การงานของตนที่ตนทำแล้ว
และยังไม่ได้ทำเท่านั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๑.
ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา อปฺปมาทญฺจ เขมโต
ภาเวถฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ เอสา พุทฺธานุสาสนี.
เห็นความประมาทเป็นภัย และเห็นความไม่ประมาท
เป็นความปลอดภัยแล้ว พึงเจริญมรรคมีองค์ ๘
นี้เป็นพุทธานุศาสนี.
( พุทฺธ ) ขุ. จริยา. ๓๓/ ๕๙๕.
ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํ
ตสฺมา ปิยํ น กยิราถ ปิยาปาโย หิ ปาปโก.
การไม่เห็นสิ่งที่รักเป็นทุกข์ และการเห็นสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์
เหตุนั้น จึงไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่รัก เพราะความพราก
จากสิ่งที่รัก เป็นการทราม.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๔๓.
มจฺจุนพฺภาหโต โลโก ปริกฺขิตฺโต ชราย จ
หญฺญติ นิจฺจมตฺตาโณ ปตฺตหณฺโฑว ตกฺกโร.
โลกถูกมฤตยูกำจัด ถูกชราล้อมไว้ ไม่มีผู้ต้านทาน
ย่อมเดือดร้อนเป็นนิตย์ ดุจคนต้องโทษต้องทำตามอาชญาฉะนั้น.
( สิริมณฺฑเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๓๕.
ยํ ลภติ น เตน ตุสฺสติ ยํ ปตฺเถติ ลทฺธํ หีเฬติ
อิจฺฉา หิ อนนฺตโคจรา วิคติจฺฉานํ นโม กโรม เส.
บุคคลได้สิ่งใด ไม่ยินดีด้วยสิ่งนั้น, ปรารถนาสิ่งใด
ดูหมิ่นสิ่งที่ได้แล้วนั้น, เพราะความต้องการไม่มีที่สุด,
พวกเราจงทำความนอบน้อมผู้ปราศจากความต้องการเถิด.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/ ๙๔.
ยถาหิ องฺคสมฺภารา โหติ สทฺโท รโถ อิติ
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ โหติ สตฺโตติ สมฺมติ.
เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมี ฉันใด
เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ ย่อมมี ฉันนั้น.
( วชิราภิกฺขุนี ) สํ. ส. ๑๕/ ๑๙๘. ขุ. มหา. ๒๙/ ๕๓๖.
ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ.
เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย ต้นไม้แม้ถูกตัดแล้วย่อมงอกได้อีกฉันใด,
เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว ทุกข์นี้ย่อมเกิดร่ำไปฉันนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๖๐.
ยสฺส ราโค จ โสโส จ อวิชฺชา จ วิราชิตา
โส อิมํ สมุทฺทํ สคาหํ สรกฺขสํ สอุมฺมิภยํ สุทิตฺตรํ อจฺจตริ.
ผู้สำรอกราคะโทสะและอวิชชาได้แล้ว ชื่อว่าได้ข้ามทะเล
ที่มีสัตว์ร้าย มีผู้ร้าย มีภัยจากคลื่น อันข้ามไปได้ยากนักนี้.
( พุทฺธ ) สํ. สฬ. ๑๘/ ๑๙๗.
ยสฺมึ กามา น วสนฺติ ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ
กถงฺกถา จ โย ติณฺโณ วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร.
ผู้ใดไม่มีกามอยู่ ผู้ใดไม่มีตัณหา และผู้ใดข้ามความสงสัยได้,
ผู้นั้นย่อมมีความพ้น ที่ไม่แปรผันเป็นอย่างอื่นอีก.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๔๓. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๗๐.
โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย
อุปธึ วิทิตฺวาน สงฺโคติ โลเก ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเข.
ผู้ใดเป็นทุกข์ว่าเกิดเพราะกาม , ผู้นั้นจะพึงน้อม ( จิต ) ไปในกามได้อย่างไร,
ผู้รู้จักอุปธิว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว พึงศึกษาเพื่อกำจัดอุปธิเสีย.
( พุทฺธ ) สํ. ส. ๑๕/ ๑๗๐.
โย เว ตํ สหตี ชมฺมี ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ
โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทพินฺทุว โปกฺขรา.
ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก ความโศกทั้งหลาย
ย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัวฉะนั้น.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๖๐.
รเสสุ เคธํ อกรํ อโลโล อนญฺญโปสี สปทานจารี
กุเล กุเล อปฺปฏิพทฺธจิตฺโต เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.
ผู้ไม่โลเล ไม่ทำความติดในรส ไม่เลี้ยงผู้อื่น เที่ยวบิณฑบาตตามลำดับ
มีจิตไม่ติดในสกุล พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๓๓๗. ขุ. จู. ๓๐/ ๔๐๖.
ริตฺตสฺส มุนิโน จรโต กาเมสุ อนเปกฺขิโน
โอฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ กาเมสุ คธิตา ปชา.
มุนีผู้ประพฤติตนเป็นคนว่าง ไม่เยื้อใยในกาม
ข้ามโอฆะได้ ประชาชนผู้ยังติดในกามก็ชอบ.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๙๔.
วิทฺวา จ โย เวทคู นโร อิธ ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช
โส วีตตณฺโห อนีโฆ นิราโส อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมิ.
ผู้ใดรู้จบพระเวทในโลกนี้ สละเครื่องข้องในภพน้อยใหญ่ได้แล้ว,
ผู้นั้นปราศจากตัณหา ไม่มีทุกข์ ไม่มีความทะเยอทะยาน,
เรากล่าวว่า เขาข้ามชาติและชราได้.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๓๖. ขุ. จู. ๓๐/ ๑๐๔, ๑๐๗
วิเวกญฺเญว สิกฺเขถ เอตทริยานมุตฺตมํ
เตน เสฏฺโฐ น มญฺเญถ ส เว นิพฺพานสนฺติเก.
พึงศึกษาวิเวก ซึ่งเป็นคุณอันสูงสุดของพระอริยะทั้งหลาย,
ไม่ถือตัวว่าเป็นผู้ประเสริฐเพราะวิเวกนั้น
ผู้นั้นแล ชื่อว่าปฏิบัติใกล้พระนิพพาน.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๙๔. ขุ. มหา. ๒๙/ ๑๙๑.
สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ
อนาคตภยา ธีโร อุโภ โลเก อเวกฺขติ.
พึงระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง
ผู้ฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง ๒ เพราะกลัวต่ออนาคต.
( อสฺสตฺถเทวตา ) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/ ๑๓๖.
สญฺญํ ปริญฺญา วิตเรยฺย โอฆํ ปริคฺคเหสุ มุนิ โนปลิตฺโต
อพฺพูฬฺหสลฺโล จรมปฺปมตฺโต นาสึสติ โลกมิมํ ปรญฺจ.
กำหนดรู้สัญญาแล้วพึงข้ามโอฆะได้ เป็นมุนีไม่ติดในสิ่งที่หวงแหน
ถอนลูกศรแล้วเที่ยวไป ไม่ประมาท ชื่อว่าไม่หวังโลกนี้และโลกหน้า.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๘๖. ขุ. มหา. ๒๙/ ๗๑.
สนฺตํ ตสฺส มนํ โหติ สนฺตา วาจา จ กมฺม จ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส อุปสนฺตสฺส ตาทิโน.
เมื่อพ้นเพราะรู้ชอบ สงบคงที่แล้ว ใจคอของเขาก็สงบ
คำพูด และการกระทำก็สงบ.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๘.
สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานาสนํ.
การไม่ทำบาปทั้งปวง การยังกุศลให้ถึงพร้อม
การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว, ๓ ข้อนี้
เป็นคำสั่งสอนของท่านผู้รู้ทั้งหลาย.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๓๙.
สาธุ ธมฺมรุจี ราชา สาธุ ปญฺญาณวา นโร
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ สุขํ.
พระราชาดี ที่ทรงยินดีในธรรม, คนดี ที่มีปัญญา,
เพื่อดีที่ไม่ประทุษร้ายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. ปญฺญาส. ๒๘/ ๒๐.
|