๒๒ . วาจาวรรค คือ หมวดวาจา
๓๙๘. หทยสฺส สทิสี วาจา.
วาจาเช่นเดียวกับใจ .
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๓๘.
๓๙๙ . โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ.
เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๒๘.
๔๐๐ . มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ.
คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๒๘.
๔๐๑ . ทุฏฺฐสฺส ผรุสา วาจา.
คนโกรธมีวาจาหยาบ .
ขุ . ชา. ทสก. ๒๗/ ๒๗๓.
๔๐๒. อภูตวาที นิรยํ อุเปติ.
คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก.
ขุ . ธ. ๒๕/ ๕๕.
๔๐๓ . สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ.
ความสะอาด พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ.
นัย - ขุ. อุ. ๒๕/ ๑๗๘.
๔๐๔ . วาจํ มุญฺเจยฺย กลฺยาณึ.
ควรเปล่งวาจางาม .
สํ . ส. ๑๕/ ๖๐.
๔๐๕ . สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมุญฺเจ.
ควรเปล่งวาจาไพเราะที่มีประโยชน์ .
ขุ . ชา. เตรส. ๒๗/ ๓๕๐.
๔๐๖ . ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย.
ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน .
สํ . ส. ๑๕/ ๒๗๘. ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๑๑.
๔๐๗ . มนุญฺญเมว ภาเสยฺย.
ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ .
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๐.
๔๐๘ . นามนุญฺญํ กุทาจนํ.
ในกาลไหน ๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ.
ขุ . ชา. เอก. ๒๗/ ๑๐.
๔๐๙. วาจํ ปมุญฺเจ กุสลํ นาติเวลํ.
ไม่ควรเปล่งวาจาที่ดี ให้เกินกาล.
ขุ . ชา. ทุก. ๒๗/ ๘๐. ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๒๓. ขุ. มหา. ๒๙/ ๖๒๒.
๔๑๐ . น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ.
ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย .
ขุ . ชา. ๒๗/ ๒๘.
กลฺยาณิเมว มุญฺเจยฺย น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ
โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ มุตฺวา ตปฺปติ ปาปิกํ.
พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย
การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ
คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน.
( พุทฺธ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/ ๒๘.
ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย
ปเร จ น วิหึเสยฺย สา เว วาจา สุภาสิตา.
บุคคลพึงกล่าววาจาที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน
และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น, วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต.
( วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๑๑.
นาติเวลํ ปภาเสยฺย น ตุณฺหี สพฺพทา สิยา
อวิกิณฺณํ มิตํ วาจํ ปตฺเต กาเล อุทีริเย.
ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป
เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูด พอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ.
( พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/ ๓๓๘.
ปิยวาจเมว ภาเสยฺย ยา วาจา ปฏินนฺทิตา
ยํ อนาทาย ปาปานิ ปเรสํ ภาสเต ปิยํ.
ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น
เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่นแล้ว กล่าวแต่คำไพเราะ.
( วงฺคีสเถร) ขุ. สุ. ๒๕/ ๔๑๒.
ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส กุธารี ชายเต มุเข
ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.
คนที่เกิดมา มีผึ่งเกิดอยู่ในปาก คนโง่กล่าวคำไม่ดี
ก็ชื่อว่าเอาผึ่งถากตัวเอง.
( พุทฺธ) องฺ. ทสก. ๒๔/ ๑๘๕.
ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท
อกโรนฺตํ ภาสมานํ ปริชานนฺติ ปณิฑิตา.
บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น,
บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด.
( หาริตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/ ๓๐๙.
โย อตฺตเหตุ ปรเหตุ ธนเหตุ จ โย นโร
สกฺขิปุฏฺโฐ มุสา พฺรูติ ตํ ชญฺญา วสโล อิติ.
คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ดี
เพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว.
( พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๓๕๐.
โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย
วิจินาติ มุเขน โส กลึ กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.
ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ,
ผู้นั้นย่อมเก็บโทษด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษนั้น.
( พุทธฺ) องฺ. จตุกฺก. ๒๑/ ๔.
สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา
เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ.
ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความซึ่งเป็นประโยชน์แม้ตั้งพัน ,
ข้อความที่เป็นประโยชน์บทเดียว ที่ฟังแล้วสงบระงับได้ ประเสริฐ กว่า.
( พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๒๘.
อกกฺกสํ วิญฺญาปนึ คิรํ สจฺจํ อุทีรเย
ยาย นาภิสเช กญฺจิ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใคร ๆ ขัดใจ
ไม่หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง,
เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นพราหมณ์.
( พุทฺธ ) ขุ. ธ. ๒๕/ ๗๐.
อกฺโกธโน อสนฺตาสี อวิกตฺถี อกุกฺกุจฺโจ
มนฺตาภาณี อนุทฺธโต ส เว วาจายโต มุนิ.
ผู้ใด ไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา
ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่า เป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว.
( พุทฺธ ) ขุ. สุ. ๒๕/ ๕๐๐. ขุ. มหา. ๒๙/ ๒๕๗.
อพทฺธา ตตฺถ พชฺฌนฺติ ยตฺถ พาลา ปภาสเร;
พทฺธาปิ ตตฺถ มุจฺจนติ ยตฺถ ธรีรา ปภาสเร.
คนเขลา ย่อมกล่าวในเรื่องใด ไม่ถูกผูกก็ติดในเรื่องนั้น,
คนฉลาดย่อมกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั้น.
( โพธิสตฺต ) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/ ๓๙.
ปรสฺส วา อตฺตโน วาปิ เหตุ น ภาสติ อลิกํ ภูริปญฺโญ
โส ปูชิโต โหติ สภาย มชฺเฌ ปจฺฉาปิ โส สุคติคามิ โหติ.
ผู้มีภูมิปัญญา ย่อมไม่พูดพล่อย ๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่น
หรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชาในท่ามกลางชุมชน
แม้ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ.
( มโหสธโพธิสตฺต ) ขุ. ชา. วีสติ. ๒๗/ ๔๒๗.
ยํ พุทฺโธ ภาสตี วาจํ เขมํ นิพฺพานปตฺติยา
ทุกฺขสฺสนฺตกิริยาย สา เว วาจานมุตฺตมา.
พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด เป็นคำปลอดภัย
เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดทุกข์,
พระวาจานั้นแล เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย.
( วงฺคีสเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๔๓๔.
สจฺจํ เว อมตา วาจา เอส ธมฺโธ สนนฺตโน
สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อหุ สนฺโต ปติฏฺฐิตา.
คำสัตย์แล เป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า
สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์
ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม.
( วงฺคีสเถร ) ขุ. เถร. ๒๖/ ๔๓๔.
|